ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์ชี้ เบรนท์-เวสต์เท็กซัส ปรับตัวลง จากกังวลอุปทานล้นตลาดในยุโรปและอเมริกาเหนือ


 ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลเรื่องอุปทานล้นตลาดจากยุโรปและอเมริกาเหนือ ประกอบกับความต้องการยังคงมีอยู่อย่างจำกัด อย่างไรก็ดีสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดิบไม่ให้ลดลงไปมากนัก

 
- ปริมาณการส่งออกน้ำมันเดือน ก.ค. ของอิรักปรับตัวเพิ่มจาก 2.42 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 2.44 ล้านบาร์เรลต่อวัน ถึงแม้ว่าการส่งออกจากแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Kirkuk ยังคงไม่สามารถส่งออกได้ก็ตาม
 
- ดัชนีภาคการบริการสหรัฐฯ เดือน ก.ค. ปรับตัวลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 60.8 เมื่อเทียบกับเดือน ก.ค. ที่ระดับ 61
 
+ ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงานสหรัฐฯ ในเดือนมิ.ย. ปรับตัวขึ้น 1.1% ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบสามเดือน
 
+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ วันที่ 1 ส.ค. 2557 ว่าปรับลดลง 5.5 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 363.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันเบนซินและดีเซลคงคลังปรับลดลง 3.6 และ 0.54 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ
 
+ กำลังการผลิตน้ำมันของประเทศลิเบียปรับลดลงจาก 5 แสนบาร์เรลต่อวัน เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับ 4.5 แสนบาร์เรล นอกจากนี้หลุมผลิตน้ำมันยังคงปลอดภัย แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ปะทะกันที่เมืองทริโปลีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
 
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานปรับเพิ่มขึ้น หลังโรงกลั่นในประเทศไต้หวัน เกาหลี และอินเดียกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง นอกจากนี้ความต้องการในภูมิภาคยังคงเบาบาง อีกทั้งโอกาสในการขนย้ายน้ำมันเบนซินออกนอกภูมิภาคค่อนข้างจำกัด เนื่องจากความต้องการในยุโรปและสหรัฐฯค่อนข้างเบาบางเช่นกัน
 
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในประเทศไทยปรับเพิ่มขึ้น หลังฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงสิ้นสุดลง นอกจากนี้ยังคาดว่าเวียดนามจะนำเข้าน้ำมันดีเซลน้อยลง เนื่องจากความต้องการภายในประเทศลดลง หลังเศรษฐกิจชะลอตัว
 
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 96-103 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 103-109 เหรียญฯ
 
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
-จับตาภาวะอุปทานน้ำมันดิบส่วนเกินบริเวณทะเลเหนือและแอฟริกา ท่ามกลางความต้องการใช้น้ำมันดิบจากโรงกลั่นที่ซบเซาทั้งในยุโรปและเอเชีย อันเป็นผลมาจากค่าการกลั่นที่ตกต่ำ

-เหตุการณ์ความตึงเครียดในอิรักและรัสเซีย ที่ยังคงไม่ได้กระทบต่อความสามารถในการส่งออกน้ำมันดิบของทั้งสองประเทศ โดยล่าสุดอิรักยังคงสามารถส่งออกน้ำมันดิบได้ตามแผนที่ราว 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน อีกทั้งการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียยังไม่ทำให้การส่งออกน้ำมันดิบปรับลดลงแต่อย่างใด

- ติดตามรายงานประจำเดือนของ OPEC ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ ว่าจะมีมุมมองต่ออุปสงค์และอุปทานน้ำมันดิบโลกอย่างไร ภายหลังตัวเลขเศรษฐกิจของผู้ใช้น้ำมันดิบหลักโลกอย่างสหรัฐฯ และจีนออกมาดีกว่าคาด ส่อเค้าว่าความต้องการใช้น้ำมันดิบโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
 
-เสถียรภาพของกำลังการผลิตน้ำมันดิบจากลิเบีย ภายหลังการกลับมาดำเนินการของท่าเรือขนส่งและหลุมน้ำมันดิบ ทำให้กำลังการผลิตในเดือน ก.ค. ปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ราว 430,000 บาร์เรล จากราว 210,000 บาร์เรลในเดือนก่อนหน้า ท่ามกลางความวิตกกังวลถึงความเป็นไปได้ที่กลุ่มกบฏจะกลับเข้าขัดขวางการผลิตน้ำมันดิบอีก เหมือนเช่นที่เคยเป็นมา]
 
-การปิดซ่อมบำรุงหลุมน้ำมันดิบ Buzzard ที่ทะเลเหนือเป็นเวลาสองสัปดาห์ในเดือน ส.ค. โดยหลุมน้ำมันดังกล่าวเป็นหลุมน้ำมันดิบที่มีกำลังการผลิตสูงสุดในทะเลเหนือ โดยคาดว่าการปิดซ่อมดังกล่าวจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบที่จะส่งออกลดลงประมาณ 24%
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตาม
วันศุกร์อัตราการว่างงานสหรัฐฯ - ก.ค. 57
ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ (ISM) - ก.ค. 57
ความรู้สึกผู้บริโภคสหรัฐฯ - ก.ค. 57
ดัชนีภาคการผลิตยุโรป (Markrit)- ก.ค. 57
ดัชนีภาคการผลิตจีน (Official) - ก.ค. 57
ดัชนีภาคการผลิตจีน (HSBC)- ก.ค. 57
วันจันทร์ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนยุโรป - ส.ค. 57
วันอังคารดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ - ก.ค. 57
ดัชนีภาคการบริการสหรัฐฯ - ก.ค. 57
ยอดสั่งซื้อค้าคงทนสหรัฐฯ - มิ.ย. 57
ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงานสหรัฐฯ - มิ.ย.57
ดัชนีภาคการบริการยุโรป - ก.ค. 57

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 06 ส.ค. 2557 เวลา : 10:45:34

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:33 am