สรุปภาวะตลาดวันก่อน: SET +9.60 จุด รีบาวด์ต่อ เก็งงบ Q2 + ทริกเกอร์ฟันด์
SET แกว่งแดนบวกตลอดทั้งวัน กรอบ 1520-32 โดยเป็นการดีดกลับ 2 วันติดต่อกัน เก็งงบ Q2 และดักเม็ดเงินทริกเกอร์ฟันด์ 4-5 กองที่จะทยอยเข้าในช่วงสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ดีช่วงนี้กระแสเงินทุนต่างชาติยังไม่แน่นอน วานนี้พลิกมาขายสุทธิ 843 ลบ. แต่ยัง Long SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 จำนวน 4,223 สัญญา (Short Covering)
ทิศทางตลาดวันนี้: แกว่งในทิศทางอ่อนลง ห่วงปัญหายูเครนปะทุรอบใหม่
หุ้นโลกเมื่อคืน (5 ส.ค.) ส่วนใหญ่ปรับลง วิตกปัญหาในยูเครนกลับมาปะทุรอบใหม่ หลังรมว.ตปท.ของโปแลนด์ระบุรัสเซียได้เสริมกำลังทหารตามแนวชายแดนยูเครน-รัสเซีย และห่วง FED อาจขึ้นดบ.เร็วกว่าคาด หลังศก.สหรัฐฯ ยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดย ISM ภาคบริการเพิ่มขึ้นจาก 56.0 ใน มิ.ย. มาที่ 58.7 ใน ก.ค. ซึ่งดีกว่าคาดที่ 56.5 และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ธ.ค. 48 นอกจากนี้คำสั่งซื้อภาคโรงงานดีขึ้นจาก -0.6% ใน พ.ค. เป็น +1.1% ใน มิ.ย. ดีกว่าคาดที่ +0.6% มอง SET มีแนวโน้มแกว่งลงจากโอกาสเกิดแรงขายทำกำไร หลังความเสี่ยงการเมืองเชิงภูมิศาสตร์ (Geopolitical Risk) สูงขึ้น ประกอบกับกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าเริ่มไม่แน่นอน อย่างไรก็ดี เชื่อตลาดยังไม่แกว่งลงแรงในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า เพราะ (1) จะมีเม็ดเงินจากทริกเกอร์ฟันด์ 4-5 กองไหลเข้าสัปดาห์หน้า (2) ยังคงมีแรงซื้อเก็งงบ Q2 และการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลช่วยหล่อเลี้ยงภาวะตลาด แนวรับ 1520+/- แนวต้าน 1535-40 อนึ่ง แจ้งเตือน! หุ้น IFEC, ADAM, SLC เข้าข่ายติด Cash Balance สำหรับสัปดาห์นี้แล้ว
กลยุทธ์การลงทุน: ขึ้นเป็นจังหวะขายลดพอร์ต เทรดสั้นต้องรับความเสี่ยงได้สูง
แม้ SET เมื่อวานขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แต่เรายังมองเป็นเพียงการดีดกลับทางเทคนิค และยังมีโอกาสปรับฐานลงหลุดระดับ 1500 ภายใน 1-2 เดือนข้างหน้านี้ จาก (1) การประเมินมูลค่าหุ้นทั่วโลกตึงตัว เสี่ยงถูกขายทำกำไรระยะสั้นมากขึ้น (2) Foreign Funds Flow เริ่มสะดุดและมีโอกาสพลิกมาเป็นไหลออก (ชั่วคราว) จาก Geopolitical Risk ที่เพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนการดำเนินนโยบายการเงินของ FED เชื่อว่าการประชุมเดือน ก.ย. เป็นสิ่งต้องจับตามากๆ (3) เชื่อว่าการทำงานของ คสช. จะไม่มีความคืบหน้ามากนักในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า เพราะหลังมีรธน.ปกครองปท.ชั่วคราว หน้าที่สำคัญหลายอย่าง อาทิ กระบวนการสรรหานายกฯ, การพิจารณากฎหมายต่าง ๆ, การตั้งคณะกรรมธิการยกร่างรธน.ฉบับถาวร และการตั้งสภาปฏิรูปประเทศ (สปช.) จะตกอยู่ในมือของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งมีขั้นตอนทางรัฐสภา ทำให้ต้องใช้เวลาพอสมควร ทั้งนี้ เรามอง SET ที่ระดับ 1460-80 จึงน่าเริ่มทยอยสะสม หุ้นที่แนวโน้มกำไรจะเร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง (กำไร 2H > 1H) และราคาหุ้นมีความเสี่ยง (Downside Risk) ในการปรับตัวลงน้อย แม้ภาวะตลาดอยู่ในช่วงปรับฐานก็ตาม เนื่องจากราคาหุ้นค่อนข้างนิ่ง/ไม่ขยับขึ้นมากในช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้ หุ้นเด่น (Top picks) สำหรับเดือน ส.ค. คือ BCP, CENTEL, HEMRAJ, LH, SIM, TTA สำหรับการเทรดดิ้งสั้น เรามองหุ้นที่น่าจะเป็นเป้าหมายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่กำลังเสนอขาย 4-5 กอง น่าสนใจ (เม็ดเงินจะเข้าลงทุนได้ในสัปดาห์หน้า) แนะนำ SCC, LH, CENTEL, STEC, WHA
หุ้นเด่นรายวัน: STEC
STEC – เป็นหนึ่งในหุ้นที่เรามองเป็นเป้าหมายการลงทุนของทริกเกอร์ฟันด์ที่จะไหลเข้าสัปดาห์หน้า จากราคาหุ้นยัง laggard และแนวโน้มอุตสาหกรรมที่สดใส ทั้งแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.4 ล้านลบ.ของรัฐ และงานภาคเอกชน รฟม.เตรียมออก TOR สายสีเขียว 19 ส.ค. นี้ ฐานะการเงินแข็งแกร่ง มูลค่าเหมาะสม 27.5 บ. (PER 24x ปี 58F)
ปัจจัยติดตาม
6 ส.ค.
THประชุมธนาคารกลางไทย (BOT)
JPตัวเลขดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ในเดือน มิ.ย. (เบื้องต้น)
GE-USตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงานของเยอรมันในเดือน มิ.ย., ตัวเลขดุลการค้าของสหรัฐฯ ในเดือน มิ.ย.
7 ส.ค.
EU-UKประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) และอังกฤษ (BOE)
GEตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันในเดือน มิ.ย.
USตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 2 ส.ค.
7-8 ส.ค.
JPประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
ข่าวเด่น