ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ทิสโก้แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้น : ขึ้นเป็นจังหวะขายลดพอร์ต เทรดสั้นต้องรับความเสี่ยงได้สูง


สรุปภาวะตลาดวันก่อน    : SET -6.57 จุด ตามหุ้นทั่วโลก ห่วงปัญหารัสเซีย-ยูเครน
SET แกว่งในกรอบแคบ 1521-32 โดยปรับลงตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกจากความกังวลปัญหาความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ขณะที่กนง.คงดบ.นโยายที่ 2% ตามคาด ต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิ 1.04 พันลบ. แต่ยัง Long SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน จำนวน 3,805 สัญญา

ทิศทางตลาดวันนี้    : Sideways ขาดปัจจัยชี้นำใหม่ รอดูประชุม ECB
หุ้นโลกเมื่อคืน (6 ส.ค.) ปิดกระจัดกระจายไร้ทิศทาง โดยตลาดหุ้นยุโรปปรับลง วิตกปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองเชิงภูมิศาสตร์ (Geopolitical Risk) หลังยูเครนส่งทหารเข้าขอคืนพื้นที่จากกลุ่มที่สนับสนุนรัสเซีย ขณะที่รัสเซียเตรียมตอบโตมาตรการคว่ำบาตรกับชาติตะวันตก อย่างไรก็ดีสำหรับหุ้นสหรัฐฯ ตีกลับจนพลิกเป็นบวกเล็กน้อย หลังสหรัฐฯ ขาดดุลการค้าน้อยกว่าคาดใน มิ.ย. มอง SET แกว่งแคบออกด้านข้าง (Sideways) ขาดปัจจัยชี้นำใหม่ ประกอบกับรอดูผลประชุม ECB ด้วย แนวรับแรก 1520+/- (ช่วงสั้น ๆ ไม่ควรหลุดแนวรับนี้ เพราะมองเป็นตัววัดว่าการรีบาวด์สิ้นสุดแล้ว หรือยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากหลุดระดับดังกล่าว จะลดลงทดสอบ 1500-10 ค่อนข้างง่ายและเร็วด้วย) แนวต้าน 1530-32 อนึ่ง แจ้งเตือน! หุ้น ADAM, AJD, IFEC, SLC เข้าข่ายติด Cash Balance สำหรับสัปดาห์นี้แล้ว

 กลยุทธ์การลงทุน    : ขึ้นเป็นจังหวะขายลดพอร์ต เทรดสั้นต้องรับความเสี่ยงได้สูง
แม้ SET เมื่อวานขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แต่เรายังมองเป็นเพียงการดีดกลับทางเทคนิค และยังมีโอกาสปรับฐานลงหลุดระดับ 1500 ภายใน 1-2 เดือนข้างหน้านี้ จาก (1) การประเมินมูลค่าหุ้นทั่วโลกตึงตัว เสี่ยงถูกขายทำกำไรระยะสั้นมากขึ้น (2) Foreign Funds Flow เริ่มสะดุดและมีโอกาสพลิกมาเป็นไหลออก (ชั่วคราว) จาก Geopolitical Risk ที่เพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนการดำเนินนโยบายการเงินของ FED เชื่อว่าการประชุมเดือน ก.ย. เป็นสิ่งต้องจับตามากๆ (3) เชื่อว่าการทำงานของ คสช. จะไม่มีความคืบหน้ามากนักในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า เพราะหลังมีรธน.ปกครองปท.ชั่วคราว หน้าที่สำคัญหลายอย่าง อาทิ กระบวนการสรรหานายกฯ, การพิจารณากฎหมายต่าง ๆ, การตั้งคณะกรรมธิการยกร่างรธน.ฉบับถาวร และการตั้งสภาปฏิรูปประเทศ (สปช.) จะตกอยู่ในมือของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งมีขั้นตอนทางรัฐสภา ทำให้ต้องใช้เวลาพอสมควร ทั้งนี้ เรามอง SET ที่ระดับ 1460-80 จึงน่าเริ่มทยอยสะสม หุ้นที่แนวโน้มกำไรจะเร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง (กำไร 2H > 1H) และราคาหุ้นมีความเสี่ยง (Downside Risk) ในการปรับตัวลงน้อย แม้ภาวะตลาดอยู่ในช่วงปรับฐานก็ตาม เนื่องจากราคาหุ้นค่อนข้างนิ่ง/ไม่ขยับขึ้นมากในช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้  หุ้นเด่น (Top picks) สำหรับเดือน ส.ค. คือ BCP, CENTEL, HEMRAJ, LH, SIM, TTA สำหรับการเทรดดิ้งสั้น เรามองหุ้นที่น่าจะเป็นเป้าหมายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่กำลังเสนอขาย 4-5 กอง น่าสนใจ (เม็ดเงินจะเข้าลงทุนได้ในสัปดาห์หน้า) แนะนำ SCC, LH, CENTEL, STEC, WHA ?

หุ้นเด่นรายวัน    : TTA
TTA – ดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยวานนี้ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 759 จุด (+4 จุด) สูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เรมองแนวโน้ม BDI ปรับขึ้นต่อ เนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลขนส่งถ่านหินที่มักทำให้ BDI ปรับขึ้นในเดือน ส.ค. – ต.ค. มองการดำเนินงาน 2Q57F จะพลิกมามีกำไรราว 180 ลบ. จากที่ขาดทุน YoY จากการดำเนินงานของเมอร์เมดที่ดีขึ้น เตรียมนำบริษัทลูกเข้าตลท. Q4 มูลค่าเหมาะสม 25.5 บ. (CONSENSUS)  

ปัจจัยติดตาม

7 ส.ค.    EU-UK    ประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) และอังกฤษ (BOE)
    GE    ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันในเดือน มิ.ย.
     US    ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 2 ส.ค.
7-8 ส.ค.    JP    ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
8 ส.ค.    JP-CH    ดุลการค้าและบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นใน มิ.ย., ส่งออก-นำเข้า และดุลการค้าของจีนใน ก.ค.
    GE    ตัวเลขส่งออก-นำเข้า, ดุลการค้า และดุลบัญชีเดินสะพัดของเยอรมันในเดือน มิ.ย.

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 07 ส.ค. 2557 เวลา : 14:48:53

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:01 am