สรุปภาวะตลาดวันก่อน: SET -1.96 จุด Geopolictical Risk กดดันหุ้นทั่วโลก
SET แกว่งในทิศทางอ่อนลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน กรอบ 1510-20 วิตกเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองเชิงภูมิศาสตร์ (Geopolictical Risk) หลังรัสเซียตอบโตปท.ที่คว่ำบาตรด้วยการห้ามนำเข้าอาหารจากปท.เหล่านั้น และสหรัฐฯ อนุมัติปฏิบัติการทางอากาศเพื่อต่อสู้กับกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงในอิรัก ต่างชาติขายสุทธิ 1.18 พันลบ.
ทิศทางตลาดวันนี้: ไซด์เวย์ (อัพ) แม้ปัจจัยตปท.ถ่วง แต่ปัจจัยในปท.ช่วยหนุน
หุ้นโลกเมื่อคืน (12 ส.ค.) ปรับลง หลังความเชื่อมั่นด้านศก.ในระยะ 6 เดือนข้างหน้าของเยอรมัน (ZEW Survey) ร่วงจาก 27.1 ใน ก.ค. มาอยู่ที่ 8.6 ใน ส.ค. ต่ำกว่าตลาดคาดมากที่ระดับ 17.0 และต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2012 ประกอบกับสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนและตะวันออกกลาง (ทั้งในฉนวนกาซาและในอิรัก) ยังมีความไม่แน่นอนสูง แม้อิสราเอลและกลุ่มฮามาลยังอยู่ในช่วงของการหยุดยิง 3 วัน สิ้นสุดพรุ่งนี้ แต่สถานการณ์โดยรวมยังอึมครึม นอกจากนี้ รัสเซียส่งรถบรรทุกเสบียง (อาหาร, น้ำ, ยารักษาโรค) จำนวน 280 คันเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในยูเครน แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการเข้าแทรกซึมกิจการภายในยูเครนมากขึ้น ด้านปัจจัยในปท.ค่อนข้างดี โดยคาดว่า สนช.จะมีการพิจารณางบประมาณปี 58 เป็นวาระเร่งด่วน ก่อนวาระการพิจารณาหาผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ ตลาดน่าจะมีมุมมองเป็นบวก เพราะงบประมาณปี 58 มีความสำคัญกว่า เพื่อให้สามารถทันใช้ในวันที่ 1 ต.ค. อย่างไรก็ดี จำเป็นต้องรอในหลวงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งปธ.และรองปธ.สนช.ก่อน จึงจะเริ่มดำเนินการพิจารณางบฯ ได้ นอกจากนี้ เม็ดเงินทริกเกอร์ฟันด์ 6 กองที่เสนอขายในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว จะเริ่มเข้าลงทุนได้ในสัปดาห์นี้ มอง SET แกว่งในกรอบจำกัดออกด้านข้าง โดยให้น้ำหนักแกว่งขึ้นเล็กน้อย แนวรับ 1510-14 แนวต้าน 1526-32 อนึ่ง หุ้น ADAM, AJD, IFEC, SLC ติด Cash Balance 13 ส.ค. – 19 ก.ย.
กลยุทธ์การลงทุน: ขึ้นเน้นขายลดพอร์ตถือเงินสดเพิ่ม เทรดดิ้งสั้นเข้า-ออกไว
เรายังมองหุ้นไทย 1-2 เดือนข้างหน้านี้ (ส.ค. - ก.ย.) อยู่ในช่วงของการปรับฐาน จาก (1) การประเมินมูลค่าหุ้นทั่วโลกตึงตัว (2) Foreign Funds Flow เริ่มพลิกเป็นไหลออกจาก Geopolitical Risk ที่เพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนการดำเนินนโยบายการเงินของ FED (3) การทำงานของ สนช. มีขั้นตอนทางรัฐสภา ทำให้ต้องใช้เวลา ไม่รวดเร็วเหมือนการทำงานของ คสช.ก่อนหน้านี้ หุ้นเด่น (Top picks) สำหรับเดือน ส.ค. คือ BCP, CENTEL, HEMRAJ, LH, SIM, TTA สำหรับธีมหุ้นเทรดดิ้งสั้น รัสเซียห้ามนำเข้าอาหารในหลายปท. น่าจะส่งผลดีต่อ CPF, GFPT หุ้นงบ Q2 ล่าสุดออกมาดีมีโอกาสปรับประมาณการและมูลค่าเหมาะสมขึ้น STEC และขอปิดธีมหุ้นที่มองเป็นเป้าหมายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ (SCC -0.9%, LH +4.8%, CENTEL +1.4%, STEC +1.3%, WHA -0.7%) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +1.2% ใน 1 สัปดาห์ อนึ่ง TISCO Weekly Stock Guru สัปดาห์นี้ ไม่มีหุ้นแนะนำ เพราะมองเป็นจังหวะขายลดพอร์ตมากกว่า โดยแนะนำให้ติดตาม EU GDP ในวันที่ 14 ส.ค.
หุ้นเด่นรายวัน: TTA
TTA – หลังดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ฟื้นตัวอย่างช้าๆ วานนี้พุ่งแรง +44 จุด (+5.6%) มาที่ 836 จุด ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 1 เดือน เรามองแนวโน้ม BDI ปรับขึ้นต่อ เนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลขนส่งถ่านหินที่มักทำให้ BDI ปรับขึ้นในเดือน ส.ค. – ต.ค. และการเร่งตัวของศก.จีนในครึ่งปีหลัง มอง 2Q57F จะพลิกมีกำไรราว 180 ลบ. จากที่ขาดทุน YoY (มอร์เมดที่ดีขึ้นเป็นหลัก) เตรียมนำบริษัทลูกเข้าตลท. Q4 มูลค่าเหมาะสม 25.5 บ.(CONSENSUS)
ปัจจัยติดตาม
13 ส.ค.
MSCIMSCI ทบทวนดัชนีประจำงวดครึ่งปี (มีผล 1 ก.ย.)
JP-CHตัวเลข GDP ของญี่ปุ่นในไตรมาส 2/57 (เบื้องต้น), ตัวเลขผลผลิตภาคอุตฯ-ยอดค้าปลีกของจีนใน ก.ค.
EUตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรปใน มิ.ย., ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมันใน ก.ค.
USตัวเลขงบประมาณรายเดือนของสหรัฐฯ, ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ในเดือน ก.ค.
14 ส.ค.
TH-JPตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยใน ก.ค., ตัวเลขคำสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นใน มิ.ย.
EU-GEตัวเลข GDP ของสหภาพยุโรป และเยอรมันในไตรมาส 2/57, ดัชนีราคาผู้บริโภคสหภาพยุโรปใน ก.ค.
USตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 9 ส.ค.
ข่าวเด่น