สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -2.58 จุด ขายทำกำไร หลังขึ้นแรงวันก่อนหน้า
SET แกว่งทั้งแดนบวกและลบสลับกันในกรอบ 1538-52 โดยการซื้อขายช่วงเช้า SET ขึ้นทดสอบแถวระดับ 1550 จุด แต่ไม่สามารถผ่านได้ ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไร ส่วนหนึ่งจากการปรับขึ้นแรงในวันก่อนหน้า และตลาดยังไม่มีปัจจัยชี้นำที่ชัดเจน มีแรงซื้อหุ้นเข้ามาเป็นรายตัวในหุ้นที่ออกงบ Q2 ดีมาก ต่างชาติพลิกมาขายสุทธิ 575 ลบ.
ทิศทางตลาดวันนี้ : แกว่งแคบ (ให้น้ำหนักทางอ่อนลง) ปัจจัยตปท.คละเคล้า
หุ้นโลกเมื่อคืน (14 ส.ค.) ขยับขึ้น แม้ตัวเลขศก.ทั้งฝั่งสหรัฐฯ (จำนวนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 21,000 ราย มาที่ 311,000 ราย vs คาดที่ 295,000 ราย) และ GDP สหภาพยุโรปแย่กว่าคาด (+0.0% QoQ ชะลอลงจาก +0.2% QoQ ใน Q1 vs คาด +0.1% QoQ) แต่ได้ปัจจัยหนุนหลักจากความกังวลด้าน Geopolitical Risk คลี่คลายลง หลังปธน.ปูติน ของรัสเซียกล่าวว่าจะพยายามอย่างหนักเพื่อยุติความขัดแย้งในยูเครนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ขณะที่อิสราเอลและกลุ่มฮามาสยอมตกลงขยายเวลาหยุดยิงเพิ่มอีก 5 วัน ตามข้อเสนอของอิยิปต์ ส่วนสถานการณ์ในอิรัก สหรัฐฯ ยังคงปฏิบัติการต่อต้านทางอากาศจากกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง มอง SET แกว่งแคบ โดยให้น้ำหนักทางอ่อนลงเล็กน้อย นลท.เข้าสู่โหมดระมัดระวังมากขึ้น หลังปัจจัยตปท.คละเคล้า และ Funds Flow ไร้ทิศทาง ขณะที่การประกาศงบ Q2 จะสิ้นสุดลงวันนี้ (15 ส.ค.) อาจกระตุ้นให้เกิดแรงขายแบบ Sell on Facts แนวต้าน 1550-52 แนวรับ 1530+/- สำหรับการทบทวนดัชนี MSCI ไม่มีหุ้นไทยตัวใหม่ใด ๆ ได้รับการคัดเลือกเข้าคำนวณในดัชนี MSCI มีเพียงหุ้นไทย 2 ตัว คือ GJS และ GSTEL ที่ถูกปลดออกจากดัชนี MSCI GLOBAL SMALL CAP นอกจากนี้ คาดไม่มีหุ้นใด ๆ ติด Cash Balance เย็นนี้
กลยุทธ์การลงทุน : รอทิศทาง SET จะทะลุขึ้น 1550 หรือลงหลุด 1530
SET ขึ้นทดสอบระดับ 1550 เมื่อวาน แต่ยังไม่สามารถยืนเหนือระดับดังกล่าว ท่ามกลางกระแสเงินทุนต่างชาติไร้ทิศทาง เรามองระดับ 1530-50 เป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ หากสามารถยืนเหนือระดับ 1550 จุดได้ น่าจะแกว่งขึ้นไปต่อแถวระดับ 1580+/- ซึ่งเปิดโอกาสสำหรับการเทรดดิ้งสั้น ๆ แต่หากหลุดระดับ 1530 น่าถอยหลังทดสอบแนวรับ 1500-10 ได้ไม่ยาก เรามองหุ้นที่น่าสนใจในการเทรดดิ้งระยะสั้น คือ หุ้นที่งบ Q2 ออกมาดีมีโอกาสถูกปรับประมาณการและเป้าหมายมูลค่าหุ้นขึ้น แนะนำ ANAN, LH, MAJOR, STEC, THCOM, TTA อย่างไรก็ดี เรายังมีมุมมองหุ้นไทยยังมีโอกาสสูงที่จะปรับฐาน เพียงแต่อาจยืดตัวออกไปเป็นเดือน ก.ย. หลัก ๆ จาก (1) การประเมินมูลค่าหุ้นทั่วโลกตึงตัว (2) กระแส Funds Flow ยังไม่แน่นอนสูง ตาม Geopolitical Risk และนโยบายการเงินของ FED (3) การทำงานของ สนช. มีขั้นตอนทางรัฐสภา ไม่รวดเร็วเหมือนการทำงานของ คสช.ก่อนหน้านี้ หุ้นเด่น (Top picks) สำหรับเดือน ส.ค. คือ BCP, CENTEL, HEMRAJ, LH, SIM, TTA สำหรับธีมหุ้นเทรดดิ้งสั้น และขอปิดธีมหุ้นที่มองเป็นเป้าหมายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ (SCC -0.9%, LH +4.8%, CENTEL +1.4%, STEC +1.3%, WHA -0.7%) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +1.2% ใน 1 สัปดาห์ อนึ่ง TISCO Weekly Stock Guru สัปดาห์นี้ ไม่มีหุ้นแนะนำ
หุ้นเด่นรายวัน : TTA
TTA – ดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ยังปรับขึ้นเป็นวันที่ 9 ติดต่อกัน (+71 จุด หรือ +8.2% ที่ 942 จุด) ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 2 เดือน เรามองแนวโน้ม BDI ปรับขึ้นต่อ เพราะกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลขนส่งถ่านหินที่มักทำให้ BDI ปรับขึ้นในเดือน ส.ค. – ต.ค. และการเร่งตัวของศก.จีนในครึ่งปีหลัง ขณะที่ 2Q57 พลิกมีกำไรถึง 255 ลบ. ดีที่สุดในรอบ 5 ปี และดีกว่าตลาดคาดไว้ที่ราว 180 ลบ. Q4 นำบ.ลูกเข้าตลท. มูลค่าเหมาะสม 25.5 บ. (CONSENSUS) ?
ปัจจัยติดตาม
15 ส.ค. TH ครบกำหนดเวลาที่บจ.ต้องประกาศงบไตรมาส 2/57
US ตัวเลขผลสำรวจภาคการผลิต (Empire Manuf.) ของสหรัฐฯ ใน ส.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิตใน ก.ค.
ข่าวเด่น