สรุปภาวะตลาดวันก่อน: SET +3.72 จุด ขานรับโฉมหน้า ครม. + เก็งมาตรการศก.
SET แกว่งแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบแคบ 1565-71 แม้เผชิญแรงขายทำกำไรระหว่างวันก็ตาม ขานรับในหลวงโปรดเกล้าฯ ครม.ประยุทธ์ 1 แล้ว ซึ่งไม่พลิกโผจากที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ด้านภาคธุรกิจตอบรับ และอยากให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งคลอดมาตรการกระตุ้นศก.โดยเร็ว เปิดทำการวันแรกของ ก.ย. ต่างชาติประเดิมซื้อสุทธิ 1.5 พันลบ.
ทิศทางตลาดวันนี้: แกว่ง +/- สลับออกด้านข้าง รอประชุม ECB, จับตายูเครน
หุ้นโลกเมื่อคืน (1 ก.ย.) ไม่มีการซื้อขายในส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากหยุดวันแรงงาน ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปบวกลบไร้ทิศทางในกรอบแคบ ส่วนหนึ่งมาจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ และนลท.รอผลประชุม ECB ในวันที่ 4 ก.ย. นี้ว่าจะออกมาตรการกระตุ้นศก.หรือไม่ นอกจากนี้สถานการณ์ยูเครนยังล่อแหลม หลังรมว.กลาโหมของยูเครนเตือนรัสเซียว่าการรุกล้ำอธิปไตยจะนำไปสู่ภาวะสงคราม ด้านสหภาพยุโรปเตรียมเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ ส่วนตัวเลขภาคการผลิต PMI ทั่วโลกใน ส.ค. อ่อนตัวลงจากเดือนก่อนหน้า ทั้งญี่ปุ่น (จาก 52.4 เป็น 52.2), จีน (51.7 เป็น 51.1) และสหภาพยุโรป (จาก 50.8 เป็น 50.7) มอง SET แกว่ง +/- ในกรอบจำกัดสลับออกด้านข้าง (sideways) มีแนวต้าน 1570+/- แรงขายทำกำไรยังมีออกมาเป็นระยะ เนื่องจากการประเมินมูลค่าหุ้นไทยที่ตึงตัว แนวรับ 1560+/- เรามอง SET ยังไม่สามารถยืนระดับ 1570 ได้ จนกว่าการประชุม ECB จะมีความชัดเจนเรื่องมาตรการกระตุ้นศก.หรือไม่ อนึ่ง หุ้น ACD, DIMET, EMC, EVER, GENCO, SST, TAKUNI ติด Cash Balance 1 ก.ย. – 10 ต.ค. ส่วน ABC ติด Cash Balance ต่ออีก 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1-5 ก.ย.
กลยุทธ์การลงทุน: ลงซื้อขึ้นขาย ขยับจุด Stop Loss จาก 1545 เป็น 1550
ช่วงนี้แนะนำเพียงการเทรดดิ้งสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย และขยับจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ของ SET ขึ้นจาก 1545 เป็น 1550 หุ้นเด่น TISCO Weekly Stock Guru สัปดาห์นี้ คือ BMCL, TPIPL ส่วน PTTGC ถือต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว มองราคาใกล้ดีดกลับ หุ้นมีสัญญาณเชิงบวกทางเทคนิค THANI, GCAP เหมาะเทรดดิ้งสั้น ส่วนหุ้นน้องใหม่ LDC ทำธุรกิจคลินิกทำฟัน เข้าเทรด mai วันนี้ (IPO 120m @ 1.5 บ.) แนะนำซื้อขายอย่างระมัดระวัง เพราะ PER และ PBV ค่อนข้างสูง ตลาดให้มูลค่าเหมาะสม 2.14 บ. ปัจจัยตปท.ที่ต้องตามใกล้ชิด คือ (1) แนวโน้มการขึ้นดบ.ของสหรัฐฯ ในปีหน้า โดยให้จับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ และการประชุม FED 16-17 ก.ย.นี้ ว่าจะเริ่มส่งสัญญาณการขึ้นดบ.หรือไม่ และ (2) การประชุม ECB 4 ก.ย. จะออกมาตรการ QE หรือไม่ หากออก QE อาจหนุนให้หุ้นทั่วโลกยืดตัวขึ้นต่อได้อีก 1-2 สัปดาห์ แต่เรามองไม่มีความยั่งยืน และเสี่ยงถูกขายทำกำไร เพราะการประเมินมูลค่าหุ้นทั่วโลกตึงตัวมากขึ้น ในทางกลับกันหาก ECB ยังไม่ทำ QE อาจสร้างความผิดหวังแก่ตลาด จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดแรงขายทำกำไรได้ (Sell-off) อย่างไรก็ดี ในระยะถัดไป (พ.ย. – ธ.ค.) เรามอง SET จะขึ้นทะลุ 1600 จุดได้ เนื่องจากนลท.น่าจะเชื่อมั่นภาวะศก.มากขึ้นที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นอย่างแท้จริงในช่วงไตรมาส 4/57 - ไตรมาส 3/58, ฤดูกาลเม็ดเงิน LTF & RMF ที่ไหลเข้ามากสุดในไตรมาส 4 และการคาดการณ์ว่ารัฐบาลชุดใหม่จะมีการยกเลิกกฎอัยการศึกบางพื้นที่ก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยว และกระแสเงินทุนไหลเข้า หลังต่างชาติ under-owned หุ้นไทยมากในรอบเกือบ 10 ปี หุ้นเด่น (Top picks) เดือน ก.ย. คือ BJCHI, BMCL, CK, LPN, MALEE, MC
หุ้นเด่นรายวัน: BMCL (Initiate Coverage)
BMCL – เราเริ่มต้นวิเคราะห์หุ้น BMCL (Initiate Coverage) ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 2 บ. (SOTP) โดยคาด BMCL จะกลับมามีกำไรในปี 2560 จากปริมาณการใช้รถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เราคาดว่าผู้โดยสารจะโตเฉลี่ยปีละ 25% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า (ปี 57-61F) และเส้นทางในการบริการที่เพิ่มขึ้นจากสายสีม่วงในปลายปี 2559
ปัจจัยติดตาม
2 ก.ย.
THสิ้นสุดการเปิดรับสมัครสมาชิกสปช.
USตัวเลข ISM Manuf. ของสหรัฐฯ ใน ส.ค. และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐฯ ใน ก.ค.
3 ก.ย.
JP-CHตัวเลข PMI ภาคบริการและรวม (Markit) ของญี่ปุ่น และของจีนในเดือน ส.ค.
EUPMI ภาคบริการและรวมทุกภาคของสหภาพยุโรปใน ส.ค. และ GDP ใน 2Q57 (SA YoY & QoQ)
EU-USตัวเลขยอดค้าปลีกของสหภาพยุโรปใน ก.ค. และคำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐฯ ใน ก.ค.,
ข่าวเด่น