สรุปภาวะตลาดวันก่อน    : SET +3.25 จุด ต่างชาติซื้อต่อ หลัง Thailand Focus จบ
SET แกว่งแดนบวกในกรอบแคบ 1565-72 นลท.คาดหวังการทำงานและมาตรการกระตุ้นศก.จากรัฐบาลชุดใหม่ กระแสหุ้นที่รุกเข้าสู่ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ยังเป็นประเด็นที่นลท.ชื่นชอบในการเก็งกำไรเป็นรายตัว ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่สอง 846 ลบ. สอดคล้องกับในอดีตที่ต่างชาติมักเป็นผู้ซื้อสุทธิ หลังงาน Thailand Focus จบ

ทิศทางตลาดวันนี้    : ขึ้นสลับย่อ คสช.เล็งปรับ/ผ่อนคลายการใช้กฎอัยการศึก
หุ้นโลกเมื่อคืน (2 ก.ย.) แกว่งปิดกระจัดกระจายไร้ทิศทาง ข้อมูลศก.สหรัฐฯ แม้ออกมาดีกว่าคาด (ISM ภาคการผลิตขยายตัวสุดในรอบ 3 ปี มาที่ 59.0 ใน ส.ค. จาก 57.0 ใน ก.ค. vs คาด 57.1, การใช้จ่ายภาคการก่อสร้าง +1.8% ใน ก.ค. ดีขึ้นจาก -0.9% ใน มิ.ย. vs คาด +1.0%) แต่กลับสร้างความกังวลใจว่า FED อาจขึ้นดบ.เร็วกว่าคาด โดยดัชนีชี้วัดค่าเงินดอลลาร์ฯ (DXYO) แข็งค่าสุดใหม่ในรอบ 13 เดือนมาที่ 82.96  มอง SET มีโอกาสไต่ขึ้นทดสอบแนวต้าน 1572-75 ขานรับ คสช.เล็งปรับ/ผ่อนคลายการใช้กฎอัยการศึก แต่เชื่อว่ายังไม่สามารถยืนได้ จากแรงขายทำกำไรยังมีต่อเนื่อง หลัก ๆ จากการประเมินมูลค่าหุ้นไทยที่ตึงตัว หลัง SET ขึ้น 7 เดือนติดต่อกัน และนลท.ยังรอผลประชุม ECB 4 ก.ย. นี้ว่าจะออกมาตรการกระตุ้นศก.หรือไม่ มองแนวรับ 1560+/-

 กลยุทธ์การลงทุน    : ลงซื้อขึ้นขาย ขยับจุด Stop Loss จาก 1545 เป็น 1550
ช่วงนี้แนะนำเพียงการเทรดดิ้งสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย และขยับจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ของ SET ขึ้นจาก 1545 เป็น 1550 หุ้นเด่น TISCO Weekly Stock Guru สัปดาห์นี้ คือ BMCL, TPIPL ส่วน PTTGC ถือต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว มองราคาใกล้ดีดกลับ หุ้นมีสัญญาณเชิงบวกทางเทคนิค AAV, KCE เหมาะเทรดดิ้งสั้น ปัจจัยตปท.ที่ต้องตามใกล้ชิด คือ (1) แนวโน้มการขึ้นดบ.ของสหรัฐฯ ในปีหน้า โดยให้จับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ และการประชุม FED 16-17 ก.ย.นี้ ว่าจะเริ่มส่งสัญญาณการขึ้นดบ.หรือไม่ และ (2) การประชุม ECB 4 ก.ย. จะออกมาตรการ QE หรือไม่ หากออก QE อาจหนุนให้หุ้นทั่วโลกยืดตัวขึ้นต่อได้อีก 1-2 สัปดาห์ แต่เรามองไม่มีความยั่งยืน และเสี่ยงถูกขายทำกำไร เพราะการประเมินมูลค่าหุ้นทั่วโลกตึงตัวมากขึ้น

ในทางกลับกันหาก ECB ยังไม่ทำ QE อาจสร้างความผิดหวังแก่ตลาด จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดแรงขายทำกำไรได้ (Sell-off) อย่างไรก็ดี ในระยะถัดไป (พ.ย. – ธ.ค.) เรามอง SET จะขึ้นทะลุ 1600 จุดได้ เนื่องจากนลท.น่าจะเชื่อมั่นภาวะศก.มากขึ้นที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นอย่างแท้จริงในช่วงไตรมาส 4/57 - ไตรมาส 3/58, ฤดูกาลเม็ดเงิน LTF & RMF ที่ไหลเข้ามากสุดในไตรมาส 4 และการคาดการณ์ว่ารัฐบาลชุดใหม่จะมีการยกเลิกกฎอัยการศึกบางพื้นที่ก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยว (ชอบ AAV, AOT, CENTEL) และกระแสเงินทุนไหลเข้า หุ้นไทยมากในรอบเกือบ 10 ปี  หุ้นเด่น (Top picks) เดือน ก.ย. คือ BJCHI, BMCL, CK, LPN, MALEE, MC

หุ้นเด่นรายวัน    : AAV
AAV – มองผลประกอบการที่ขาดทุน 176 ล้านบาท ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q57 แนวโน้มกำไรกำลังฟื้นตัวตามธุรกิจท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมา และราคาน้ำมันที่เป็นต้นทุนหลักปรับลงใน 3Q57 (MTD) ทั้ง YoY และ QoQ  ได้ประโยชน์จากการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีน 3 เดือน  (ส.ค. – ต.ค. 57) เนื่องจากมีเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศจีนและไทย

ปัจจัยติดตาม

3-4 ก.ย.    JP    ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
3 ก.ย.    JP-CH    ตัวเลข PMI  ภาคบริการและรวม (Markit) ของญี่ปุ่น และของจีนใน ส.ค.
    EU    PMI ภาคบริการและรวมทุกภาคของสหภาพยุโรปใน ส.ค. และ GDP ใน 2Q57 (SA YoY & QoQ)
    EU-US    ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหภาพยุโรปใน ก.ค. และคำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐฯ ใน ก.ค.