ขณะตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.7% ปิดที่ 344.97 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,421.87 จุด เพิ่มขึ้น 43.54 จุด หรือ +0.99% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 9,626.49 จุด เพิ่มขึ้น 119.47 จุด หรือ +1.26% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,873.58 จุด เพิ่มขึ้น 44.41 จุด หรือ +0.65%
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ปรับขึ้นในแดนบวก คือ ประธานาธิบดีของรัสเซียและยูเครนได้หารือถึงขั้นตอนต่างๆที่จำเป็น อันจะนำไปสู่การหยุดยิงในภาคตะวันออกของยูเครน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงเรื่องการหยุดยิงในขณะนี้
นอกจากนี้ ในรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟดทั้ง 12 เขต หรือ Beige Book ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัวขึ้นนับตั้งแต่ที่เฟดเปิดเผยรายงานครั้งก่อนเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่แนวโน้มตลาดแรงงาน ค่าแรง และราคาผู้บริโภค ยังคงทรงตัว
รายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าที่ผลิตในโรงงานสหรัฐปรับตัวขึ้น 10.5% ในเดือนก.ค. ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 11.0% ขณะที่ยอดสั่งซื้อเดือนมิ.ย.ถูกปรับทบทวนเป็นเพิ่มขึ้น 1.5% จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้นเพียง 1.1%
ตลาดคาดการณ์ ธนาคารกลางยุโรป หรือ อีซีบี จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนส.ค.ปรับตัวลงแตะ 50.7 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 13 เดือน จากระดับ 51.8 ในเดือนก.ค. และลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตัวเลขเบื้องต้นที่ 50.8
ข่าวเด่น