เนื่องจากปริมาณน้ำที่หลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำ ผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้มีน้ำเริ่มเอ่อล้น เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ริมแม่น้ำบริเวณตำบลบางหลวงโดด อำเภอบางบาล และตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ในเขตพื้นที่ลุ่มต่ำของอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี มีน้ำท่วมนาข้าว จากที่ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน และต้องการจะระบายน้ำออกจากพื้นที่ เพื่อเตรียมเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้
เพื่อให้ปัญหาดังกล่าวคลี่คลายอย่างรวดเร็ว สำนักชลประทานที่ 12 จะควบคุมปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ 1,100 ลบ.ม./วินาที โดยบริหารจัดการน้ำเข้าพื้นที่ชลประทานฝั่งตะวันตก และตะวันออก ด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาตามศักยภาพที่จะสามารถรับน้ำเพิ่มได้ โดยไม่ให้มีผลกระทบกับพื้นที่การเกษตร ซึ่งคาดว่าจะทำให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันประมาณ 30-40 เซนติเมตร อย่างไรก็ตามหากมีฝนตกหนักเพิ่มเติม จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลหลาก ผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,100 ลบ.ม./วินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป
วันนี้ น้ำที่ไหลมาจากจังหวัดนครสวรรค์ (เมื่อเวลา 7.00 น. ) มีปริมาณ 1,119 ลบ.ม./วินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 133 ลบ.ม./วินาที เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ระบายน้ำท้ายเขื่อน 902 ลบ.ม./วินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 110 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ระดับน้ำอยู่ที่ 11.10 เมตร(รทก) เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 44 เซนติเมตร ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 15.80 เมตร(รทก) ลดลงจากเมื่อวาน 20 เซนติเมตร เนื่องจากชลประทานได้ผันน้ำเข้าคลองชลประทานฝั่งตะวันตก 120 ลบ.ม./วินาที ฝั่งตะวันออก 126 ลบ.ม./วินาที แล้ว
ข่าวเด่น