สถานการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นโลก ยังคงได้รับความวิตกกังวลเกี่ยวกับกองกำลังทหารของสหรัฐและชาติพันธมิตรอาหรับ 5 ชาติ ที่เปิดฉากปฎิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ IS ในซีเรีย เมื่อวานนี้ ขณะที่เกิดความกังวลอีกประการเกี่ยวกับข้อมูลทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศในแถบยูโรโซน หลัง "มาร์กิต" รายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ หรือ PMI ที่ระบุภาคการผลิตและภาคการบริการของกลุ่มยูโรโซนประจำเดือนกันยายน 2557 ขยายตัวช้าลง โดยอยู่ที่ 52.3  ลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน จากเดือนสิงหาคมที่อยู่ระดับ 52.5 และต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ซึ่งสะท้อนให้เห็นการฟื้นตัวที่ไม่สดใสของยูโรโซน ส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปปิดเมื่อคืนนี้ (23 กันยายน) ดัชนี Stoxx 60 ร่วงลง 1.4% ปิดที่ 341.89 จุด ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.2557 หรือในรอบ 11 สัปดาห์ และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 9,595.03 จุด ร่วงลง 154.51 จุด หรือเปลี่ยนแปลงลดลง1.58%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,359.35 จุด ลดลง 83.20 จุด หรือเปลี่ยนแปลงลดลง 1.87% , ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,676.08 จุด ลดลง 97.55 จุด หรือเปลี่ยนแปลงลดลง 1.44%
 

ขณะที่ตลาดหุ้นสำคัญอย่างตลาดหุ้นนิวยอร์ก แม้จะได้รับปัจจัยบวกจากการที่ "มาร์กิต" ระบุ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ หรือ PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ ทรงตัวอยู่ที่ 57.9 ในเดือนกันยายน ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงสุดในรอบมากกว่า 4 ปี และการจ้างงานในกลุ่มบริษัทผู้ผลิต เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ก็ตาม แต่ไม่ได้ช่วยดันดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์กให้ฟื้นตัวได้ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืนนี้ (23 กันยายน) ร่วงลง 116.81 จุด หรือเปลี่ยนแปลงลดลง 0.68% ปิดที่ 17,055.87 จุด,ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,508.69 จุด ลดลง 19.00 จุด หรือเปลี่ยนแปลงลดลง 0.42% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,982.77 จุด ลดลง 11.52 จุด หรือเปลี่ยนแปลงลดลง 0.58%