สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 24 กันยายน 2557ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,220.56-1,225.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออก อยู่ที่ 18,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,700 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV14 อยู่ที่ 18,800 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,840 บาท                                                                                                                                
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.58 น. ของวันที่ 24/09/14)
แนวโน้มวันที่ 25 กันยายน 2557

ตลาดทองคำได้รับแรงหนุนในระดับหนึ่งจากแรงช้อนซื้อ แต่ยังไม่เพียงพอจะผลักดันให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เตือนว่าการปรับตัวขึ้นและการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอาจทำให้การทำงานของเฟดยุ่งยากขึ้นจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐและทำให้เงินเฟ้อลดลง ทั้งนี้ทองคำได้รับปัจจัยบวกเพิ่มจากรายงานของธอมสัน รอยเตอร์ ระบุว่า ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 เป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในระดับหนึ่งแต่ความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้น จะช่วยหนุนราคาทองในระยะยาว โดย ธอมสัน รอยเตอร์ จีเอฟเอ็มเอส โกลด์ กรุ๊ป คาดการณ์ว่าราคาทองคำในตลาดโลกจะปรับตัวแข็งแกร่งในระยะยาวและคาดว่าราคาทองคำจะอยู่ในช่วงที่สดใสในปี 2558

อย่างไรก็ตามสกุลเงินดอลลาร์สามารถทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีครึ่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญๆ ราคาทองคำจึงเกิดแรงเทขายออหกมาบาง ประกอบกับนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ยังคงแสดงความเห็นเหมือนเดิมว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายไตรมาส 1/2015 เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในระดับแข็งแกร่งและอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ และเขากล่าวเสริมว่าถ้าหากไม่นำตัวเลขของไตรมาส 1/2014 มาคำนวณด้วยแล้ว เศรษฐกิจสหรัฐก็กำลังเติบโตในอัตราราว 4 % ในปัจจุบัน สำหรับมุมมองราคาทองคำ วายแอลจีอยากให้จับตาโซน1,233-1,240ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่สามารถผ่านไปได้ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร แต่หากสามารถยืนได้ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นสู่แนวต้าน 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีแนะนำให้นักลงทุนจับตาบริเวณ 1,217-1,210 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาสามารถยืนได้จะเกิดแรงซื้อที่ดันราคาให้ดีดตัวขึ้นไป อย่างไรก็ตาม หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,233-1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ชัดเจนเมื่อ ราคามีการปรับขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมาเช่นกัน ทั้งนี้ ระยะสั้นราคาทองคำยังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบเพื่อสร้างฐานราคาอีกครั้ง ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,217-1,210 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนสามารถซื้อเก็งกำไร โดยตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณ 1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์  

             ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,217 (18,540บาท)       1,205 (18,360บาท)          1,180 (17,970บาท)  
แนวต้าน      1,233 (18,780บาท)       1,240 (18,890บาท)          1,250 (19,040บาท)     

           GOLD FUTURES (GFV14)
แนวรับ        1,217 (18,700บาท)       1,205 (18,510บาท)          1,180 (18,130บาท)  
แนวต้าน      1,233 (18,940บาท)       1,240 (19,050บาท)          1,250 (19,200บาท)