ภายหลังจากกลุ่มนักรบติดอาวุธรัฐอิสลาม (IS) ถูกกองกำลังสหรัฐอเมริกาและพันธมิตร 5 ชาติอาหรับ ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มฐานที่มั่นในซีเรีย และสหรัฐยังขู่จะขยายพื้นที่การปฎิบัติการเพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่ม IS เกิดความโกรธแค้นอย่างหนัก พร้อมขู่จะมีการจู่โจมกลับโดยพุ่งเป้าไปที่สหรัฐและฝรั่งเศส

 

ขณะที่กลุ่มติดอาวุธญิฮาดในแอลจีเรีย ที่มีส่วนเกี่ยวโยงกับกลุ่ม IS ได้สังหารตัวประก้ันนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส "นายอาร์ฟ ปิแอร์ กูร์เดล" วัย 55 ปี ที่ถูกลักพาตัวมาก่อนหน้านี้ ด้วยการฆ่าตัดคอ พร้อมกับเผยแพร่คลิปการสังหารโหด เพื่อตอบโต้ที่ฝรั่งเศสปฎิเสธข้อเรียกร้องให้หยุดเข้าร่วมปฎิบัติการโจมตีทางอากาศในอิรัก

 

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (25 กันยายน) ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองค์ แห่งฝรั่่งเศส ประกาศจะเพิ่มมาตรการด้านความมั่นคงในพื้นที่สาธารณะและการขนส่ง พร้อมเพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง และประกาศให้สถานที่ราชการทั่วประเทศ ลดธงครึ่งเสาตั้งแต่วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ เพื่อไว้อาลัยแก่ตัวประกันที่ถูกฆ่าตัดคอ

 

อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่าประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองค์ ของฝรั่งเศส ปฎิิเสธที่จะเข้าร่วมปฎิบัติการโจมตีใดๆ ในซีเรีย จากก่อนหน้านี้ฝรั่งเศสเข้าร่วมทิ้งระเบิดถล่มเป้าหมายที่กบดานของกลุุ่ม IS ในอิรัก ซีึ่งเป็นไปตามที่ทางการอิรักร้องขอ ขณะที่ นายฌอง-อีฟ เลอ ดริอง รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศส ระบุว่า ฝรั่งเศสยังต้องรอการพิจารณาเรื่องการเข้าร่วมโจมตีทางอากาศกลุ่ม IS ในซีเรีย