SET แกว่งทั้งแดนบวกและลบในกรอบ 1585-95 โดยช่วงเช้าได้แรงหนุนจาก PMI ภาคผลิต ก.ย.จีนดีกว่าคาด (จริง 51.1 vs คาด 51.0) เก็งครม.ออกมาตรการกระตุ้นศก. แต่ภาคบ่ายไหลลง (บางช่วงพลิกมาติดลบ) หลัง PMI ยุโรปร่วง 5 เดือนติดต่อกัน ต่ำสุดในรอบ 13 เดือน และแย่กว่าที่คาดด้วย ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิ 1.64 พันลบ. 

 

ทิศทางตลาดวันนี้: ลง, หุ้นโลกดิ่งหนัก ผิดหวังข้อมูลศก. + เร่งเทขายหนีตาย

หุ้นโลกเมื่อคืน (1 ต.ค.) ดิ่งลงหนัก ผิดหวังข้อมูลศก.สหรัฐฯ (ISM ก.ย. ลดลงมาจาก 59.0 เป็น 56.6 vs คาด 58.5, การใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง ส.ค. -0.8% MoM จาก -1.2% ในเดือนก่อนหน้า vs คาด +0.5%) และสหภาพยุโรปที่ส่งสัญญาณชะลอตัว  ประกอบกับมีความกังวลต่อเนื่องต่อสถานการณ์ความไม่สงบของหลาย ๆ ประเทศ อาทิ ฮ่องกง, ยูเครน, อิรัก, ซีเรีย  ท่ามกลางการประเมินมูลค่าหุ้นที่ตึงตัว จึงกระตุ้นแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยง (สังเกตได้จากหุ้นทั่วโลกร่วง 1-1.5%, ราคาน้ำมันปรับลงต่อเนื่อง และอยู่ในระดับต่ำสุดรอบ 17 เดือน แต่ราคาพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่ง 10Y US Bond Yield ร่วง 11 bps หรือ -4.4% มาที่ 2.38% และดัชนีค่าเงินดอลลาร์ฯ ทรงตัวในระดับแข็งค่าสุดในรอบ 4 ปี) มาตรการกระตุ้นศก.ระยะสั้นของรัฐบาล 3.6 แสนลบ.ไม่ตื่นเต้น เป็นเพียงการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ-งบลงทุนภายใน 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งต้องดูว่าการดำเนินการจะมีความรวดเร็วเพียงใด ที่ดูแล้วเร็ว (เริ่มเบิกจ่าย 20 ต.ค.นี้) คงเป็นแจกเงินช่วยเหลือเกษตรกรไร่ละ 1 พันบ.สูงสุดไม่เกิน 15 ไร่เท่านั้น วงเงิน 4 หมื่นลบ. (คิดเป็นครอบครัวละ 1.5 หมื่นบ.)  มอง SET แกว่งลงตามหุ้นโลก แนวรับ 1578-80 แนวต้าน 1592-95 ตลาดหุ้นจีน-ฮ่องกง ยังปิดทำการต่อ วันนี้ติดตามการประชุม ECB หากมีแค่รายละเอียดการซื้อ ABS และ Covered Bonds โดยไม่ส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงินเพิ่ม ต้องระวังแรงขายแบบ “Sell on Facts” เพราะตลาดหุ้นหลายตลาด เริ่มเปลี่ยนทิศทางเป็นขาแกว่งลง อย่างน้อยในช่วง 1 เดือนข้างหน้า 

 

 กลยุทธ์การลงทุน: หลุด 1578 ยืนยันขาลงชั่วคราว “Wait & See”

หลังหุ้นไทยขึ้นติดต่อกัน 8 เดือนติดต่อกัน และภาวะการเปลี่ยนเป็นขาลงในระยะสั้นของตลาดหุ้นตปท.ที่ทยอยเห็นชัดมากขึ้น คาดจะกดดันหุ้นไทยเกิดการปรับฐานในเดือน ต.ค. ตามที่เรามองไว้ (รายละเอียดเพิ่มเติม ดูบทวิเคราะห์ “กลยุทธ์การลงทุน” ฉบับเมื่อวานนี้ประกอบ) แนะ “Wait & See” โดยหาก SET หลุด 1578 จะยืนยันขาลง (ชั่วคราว) อย่างไรก็ดีเรามอง Downside รอบนี้ที่ 1540-60 น่าทยอยซื้อ เพราะ SET ยังมีโอกาสกลับมาวิ่งขึ้นไปทดสอบแถว 1650 ภายในไตรมาส 4/57 และ 1700 ภายในไตรมาส 1/58 (อิงตามตัวแบบความสัมพันธ์ระหว่าง GDP, มูลค่าตลาดรวม และ SET ของเรา) ปัจจัยขับเคลื่อนหลัก คือ (1) การเร่งตัวของ GDP ไทยนับจากนี้ไปจนถึงไตรมาส 3/58 (2) เม็ดเงิน LTF & RMF ที่คาดว่าจะไหลเข้าในไตรมาส 4/57 ไม่น้อยกว่า 3 หมื่นลบ. (3) โอกาสการยกเลิกกฎอัยการศึกบางพื้นที่ (4) โอกาสการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมจากธนาคารกลางสำคัญของโลก อาทิ ECB, BOJ, PBOC

•หุ้นเทรดดิ้งสั้น (ต้องรับความเสี่ยงได้สูง) (1) หุ้นได้ประโยชน์บาทอ่อน หลังเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่า – GFPT, TUF, BJCHI, STPI (2) หุ้นมีสัญญาณเชิงบวกทางเทคนิค – ASK, SINGER 

•TISCO Weekly Stock Guru สัปดาห์นี้ (29 ก.ย. – 3 ต.ค.) แนะนำ MEGA 

•หุ้นเด่น (Top picks) เดือน ต.ค. คือ BCP, BTS, CPN, GFPT, LPN, TUF 

 

หุ้นเด่นรายวัน: ไม่มี

 

2 ต.ค.

EUประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB), ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของสหภาพยุโรปใน ส.ค.

USคำสั่งซื้อภาคโรงงานใน ส.ค., ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ รายสัปดาห์ สิ้นสุด 27 ก.ย.

 

3 ต.ค.

JP-CHตัวเลข PMI  ภาคบริการและรวมของญี่ปุ่น, ของจีนใน ก.ย.

EUตัวเลข PMI ภาคบริการและรวมทุกภาคของสหภาพยุโรปใน ก.ย., ยอดค้าปลีกใน ส.ค.

USตัวเลข ISM ภาคบริการของสหรัฐฯ ใน ก.ย., ตัวเลขดุลการค้าของสหรัฐฯ ใน ส.ค.

 USตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ใน ก.ย.

ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research