พลันที่การประชุมของธนาคารกลางยุโรป หรือ อีซีบี เมื่อวานนี้ มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.05% พร้อมกับมีมาตรการจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากธนาคารพาณิชย์ในช่วงกลางเดือนต.ค.นี้ และซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ( ABS- Aasset-backed Aecurities) ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ โดย นายมาริโอ ดรากิ ประธาน อีซีบี กล่าวว่า โครงการซื้อสินทรัพย์จะใช้เวลาในการดำเนินการอย่างน้อย 2 ปี และมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ยุโรปกลับไม่ได้มีความเชื่อมั่นว่ามาตรการเหล่านี้จะสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจของยูโรโซนได้ พร้อมกับหนุนอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนให้เพิ่มขึ้นสู่ระดับเป้าหมายของอีซีบี เนื่องจากมองว่ามาตรการดังกล่าวยังไม่เพียงพอ จึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้ (2 ตุลาคม 2557) ปิดลบในทุกตลาด
โดย ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลดลง 2.4% ปิดที่ 332.05 จุด และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 9,195.68 จุด ร่วงลง 186.35 จุด หรือเปลี่ยนแปลงลดลง 1.99% ส่วนดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,242.67 จุด ร่วงลงแรงถึง 122.60 จุด หรือเปลี่ยนแปลงลดลง 2.81% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,446.39 จุด ลบ 111.13 จุด หรือเปลี่ยนแปลงลดลง 1.69%
สำหรับในส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาเมื่อคืนนี้ (2 ตุลาคม 2557) ปรับตัวลดลงเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนกันยายน 2557 ในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะปรับตัวขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 142,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ ลดลง 3.66 จุด ปิดที่ 16,801.05 จุด หรือเปลี่ยนแปลงลดลง 0.02% อย่างไรก็ตาม ในส่วนดัชนี NASDAQ สามารถปิดได้ในแดนบวก 8.10 จุด ที่ 4,430.19 จุด หรือเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 0.18% และดัชนี S&P500 บวก 0.01 จุด ปิดที่ 1,946.17 จุด หรือเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 0.00%
ข่าวเด่น