ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ตุลาคม 2557) ปิดลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ ปรับลดลง 5.88 จุด ปิดที่ 16,315.19 จุด หรือเปลี่ยนแปลงลดลง 0.04% , ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,227.17 จุด เพิ่มขึ้น 13.51 จุด หรือเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 0.32% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,877.70 จุด เพิ่มขึ้น 2.96 จุด หรือเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 0.16%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดถูกกระหน่ำขายอย่างหนักติดต่อกัน 3 วันทำการ ก่อนที่ดัชนีดาวโจนส์จะอ่อนแรงลงในเวลาต่อมาและปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการพลังงานทั่วโลก โดยหุ้นเชฟรอน หุ้นชลัมเบอร์เกอร์ และโคโนโคฟิลิปส์ ต่างก็ร่วงลงกว่า 2%
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้ปิดบวก โดยดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 8,825.21 จุด เพิ่มขึ้น 12.78 จุด หรือเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 0.15% , ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,088.25 จุด เพิ่มขึ้น 9.55 จุด หรือเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 0.23% , ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,392.68 จุด เพิ่มขึ้น 26.44 จุด หรือเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 0.42% สำหรับ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง แต่ไม่ถึง 0.1% โดยปิดที่ 321.53 จุด
ปัจจัยที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าซื้อหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มบริษัทผลิตรถยนต์ แม้ตลาดจะได้รับแรงกดดันจากรายงานของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป หรือ ZEWระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในเยอรมนีที่มีต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศในเดือนต.ค.ร่วงลงแตะ -3.6 จาก 6.9 ในเดือนก.ย. โดยเป็นการปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน และแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2555 หรือในรอบเกือบ 2 ปี
ข่าวเด่น