|
|
|
|
|
|
สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 27 ตุลาคม 2557ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,227.70-1,231.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,900 บาทต่อบาททองคำโดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,950 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV14 อยู่ที่ 18,970 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,010 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.56 น. ของวันที่ 27/10/14)
แนวโน้มวันที่ 28 ตุลาคม 2557
ผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐและข้อมูลเศรษฐกิจอย่างเช่นยอดขายบ้านใหม่ที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี แสดงถึง ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นช่วยคลายวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งได้เพิ่มความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง แต่ส่งผลให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นทองคำถูกขายทำกำไรออกมา ทั้งนี้ ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยการพุ่งขึ้นรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบสองปี หลังจากผลกำไรภาคเอกชนที่แข็งแกร่งของบรรดาบริษัท 205 แห่งในดัชนี S&P 500 ที่เปิดเผยผลประกอบการออกมาบริษัท 69.8 % กำไรดีเกินคาด ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 63 % นับตั้งแต่ปี 1994 เป็นต้นมา ราคาทองคำปิดตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมาปิดตลาดด้วยการร่วงลง หลังจากปิดรายสัปดาห์ในแดนบวกติดต่อกันสองสัปดาห์ โดยนักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขายก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการ FOMC ที่จะประชุมกันในวันที่ 28-29 ตุลาคมนี้ วางแผนจะยุติโครงการเข้าซื้อตราสารหนี้ที่เหลืออีก 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ทำให้สิ้นสุดมาตรการ QE อย่างเป็นทางการ
ทางด้านนักลงทุนยังคงจับตาดูถ้อยคำที่เฟดใช้ในแถลงการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นข้อบ่งชี้ว่าต่อแนวทางการกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ก่อนที่จะมีการปรับเปลี่ยนการดำเนินนโยบายการเงินสู่ระดับที่เป็นปกติมากขึ้นในระยะต่อไป เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นเหนือโซน 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งต้องรอดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำว่าจะสามารถยืนในบริเวณ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่งหรือไม่ เพราะหากราคาทองคำไม่สามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่งนักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวของราคาทองคำ
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,222 หรือ 1,215 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลังแบบ Sideway โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ
โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,240 หรือ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,222 (18,730บาท) 1,215 (18,620บาท) 1,205 (18,470บาท)
แนวต้าน 1,240 (19,010บาท) 1,250 (19,160บาท) 1,262 (19,350บาท)
GOLD FUTURES (GFV14)
แนวรับ 1,222 (18,850บาท) 1,215 (18,740บาท) 1,205 (18,590บาท)
แนวต้าน 1,240 (19,130บาท) 1,250 (19,280บาท) 1,262 (19,470บาท)
|
บันทึกโดย : วันที่ :
27 ต.ค. 2557 เวลา : 18:01:51
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น