ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทบางแห่ง รวมถึงทวิตเตอร์ซึ่งเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 361 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 351 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวกของสหรัฐ โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. แตะที่ระดับ 105 โดยค่าดัชนีที่สูงกว่า 100 บ่งชี้ถึงการขยายตัว
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนได้เข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในรอบสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะเดียวกันนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมระยะเวลา 2 วันของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) จะประกาศการสิ้นสุดโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งนักลงทุนวิตกกังวลว่าอาจจะส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดผันผวนอย่างหนัก หลังจากที่โครงการดังกล่าวได้ช่วยกระตุ้นให้ตลาดทะยานขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ตุลาคม 2557) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.6% ปิดที่ 325.1 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,902.61 จุด ลดลง 85.19 จุด หรือ -0.95% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,096.74 จุด ลดลง 32.16 จุด หรือ -0.78% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,363.46 จุด ลดลง 25.27 จุด หรือ -0.40%
นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารของอิตาลี หลังจากมีรายงานว่าในบรรดาธนาคารพาณิชย์ 25 แห่งที่ไม่ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤตครั้งล่าสุดนั้น มีธนาคารของอิตาลีอยู่ในจำนวนนี้มากที่สุด ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นธนาคาร Banca Carige SpA ร่วงลง 17% และหุ้นธนาคาร Banca Popolare di Milano Scarl ดิ่งลง 4.4% ส่วนหุ้นธนาคาร Banca Monte dei Paschi di Siena ร่วงลงอย่างหนักเช่นกัน
ข่าวเด่น