+ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 460,000 บาร์เรล อยู่ที่ 380.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 2.2 ล้านบาร์เรล สำหรับปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอคลาโฮมาปรับลดลง 551,000 บาร์เรล ด้านปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล ส่วนปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังลดลง 724,000 บาร์เรล

 

+ นอกจากนี้ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 230,000 ตำแหน่งในเดือน ต.ค. 57 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่ง และนับเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันที่ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกิน 200,000 ตำแหน่ง ซึ่งช่วยหนุนตลาดน้ำมันและส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 

 

+ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า พรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งสมาชิกสภาคองเกรสในการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ โดยสามารถครองที่นั่งส่วนใหญ่ทั้ง 2 สภา ทั้งในวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งเป็นชัยชนะในรอบ 8 ปี ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าพรรครีพับลิกันมีนโยบายที่เป็นมิตรต่อการทำธุรกิจมากกว่า ตลาดจึงขานรับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ ทำให้การบริหารประเทศในช่วง 2 ปีที่เหลือของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ซึ่งอยู่พรรคเดโมแครต ถูกจับตามองอย่างหนักว่าจะบริหารประเทศได้อย่างราบรื่นหรือไม่

 

- ตัวเลขดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. 57 อ่อนตัวลงเหลือ 57.1 จากระดับ 58.6 ในเดือน ก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 58.0 อย่างไรก็ตาม ดัชนียังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมในภาคบริการของสหรัฐฯ ยังคงขยายตัว 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากภาวะอุปทานในตลาดที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดี อุปสงค์น้ำมันเบนซินจากอินโดนีเซียยังคงช่วยหนุนราคาให้ปรับลงไม่มากนัก   

 

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์ในภูมิภาคยังคงเบาบาง เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดีเซลยังได้รับปัจจัยหนุนจากสภาพตลาดน้ำมันดีเซลที่แข็งแกร่งในยุโรป และอุปสงค์จากอินโดนีเซียที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง

 

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 78-83 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 82-88 เหรียญฯ

 

จับตาท่าทีของสมาชิกในกลุ่มโอเปกว่าจะมีมุมมองต่อการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงเพื่อพยุงราคาน้ำมันไว้อย่างไร หลังล่าสุดเลขาธิการกลุ่มเผยว่าตลาดไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกต่อราคาน้ำมันที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับปัจจุบันและมีแนวโน้มยังคงการผลิตที่ระดับเดิม

 

ติดตามการประชุมอีซีบีในวันที่ 6 พ.ย. นี้ ซึ่งตลาดยังรอคอยความชัดเจนว่าอีซีบีจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งจะส่งแรงหนุนต่อราคาน้ำมัน หลังเศรษฐกิจของภูมิภาคมีแรงกดดันจากความกังวลต่อภาวะเงินฝืดที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น 

 

โรงกลั่นน้ำมันของสหรัฐฯ จะทยอยกลับมาดำเนินการอีกครั้งหลังมีกำหนดเสร็จสิ้นการปิดซ่อมบำรุงในช่วงเดือน พ.ย. นี้ ซึ่งอาจส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น ทั้งยังอาจทำให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลง

 

วันจันทร์ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ (ISM/PMI) - ต.ค. 57

ดัชนีภาคการบริการจีน  - ต.ค. 57

ดัชนีภาคการผลิตยุโรป (Markit) - ต.ค. 57

วันอังคารยอดคำสั่งซื้อของโรงงานสหรัฐฯ - ก.ย. 57

วันพุธดัชนีภาคการบริการสหรัฐฯ  - ต.ค. 57

จ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ  - ต.ค. 57

วันพฤหัสอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ของอีซีบี