สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 6 พฤศจิกายน 2557ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,138.60-1,146.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 17,850 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 17,900 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ14 อยู่ที่ 17,940 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 17,930 บาท                                                                                                                                
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.50 น. ของวันที่ 06/11/14)
แนวโน้มวันที่ 7 พฤศจิกายน 2557

เมื่อราคาทองคำสปอตต่างประเทศร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่กลางปี 2010 เนื่องจากการพุ่งขึ้นของดอลลาร์ได้ลดความน่าดึงดูดของทองคำลง ขณะที่ราคาโลหะเงินร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2010 เช่นกัน อย่างไรก็ตามราคาโลหะมีค่าร่วงลงได้กระตุ้นให้ผู้บริโภคมีความต้องการซื้อทองคำและโลหะเงินในตลาดปัจจุบันเพิ่มขึ้น หลังจากราคาดิ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี

ทั้งนี้ กองกษาปณ์สหรัฐเปิดเผยว่าได้ขายเหรียญเงิน American Eagle หมดแล้วชั่วคราว หลังจากที่มีความต้องการ "มหาศาล"ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ค้าปลีกในสหรัฐและเอเชียระบุว่า พวกเขาประสบความยากลำบาก ในการจัดหาอุปทานเหรียญเงินเมเพิล ลีฟของแคนาดาเช่นกัน อย่างไรก็ตามปัจจัยดังกล่าวเป็นเพียงแรงหนุนให้การอ่อนตัวลงของราคาทองคำชะลอตัวลง เนื่องจากตลาดคาดว่าสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งในวันศุกร์นี้และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ 5.9% ในเดือนตุลาคมไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนกันยายน หลังจากการจ้างงานในภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเกินคาด 230,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคมและสูงกว่า 200,000 ตำแหน่งเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน การจับตาดูว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวขณะที่การจ้างงานของสหรัฐเพิ่มขึ้นตามวัฏจักร ส่งผลให้มีแรงขายทองคำออกมาเมื่อราคาขยับขึ้น สำหรับมุมมองของวายแอลจีที่มีต่อราคาทองคำนั้น ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,151-1,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะสั้นเข้าซื้อเก็งกำไร

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,132 หรือ 1,122 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลัง โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,151 หรือ 1,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ

             ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,132 (17,550บาท)       1,122 (17,390บาท)          1,110 (17,210บาท)  
แนวต้าน      1,151 (17,860บาท)      1,160 (17,990บาท)           1,175 (18,220บาท)     

           GOLD FUTURES (GFZ14)
แนวรับ        1,132 (17,740บาท)       1,122 (17,590บาท)          1,110 (17,400บาท)  
แนวต้าน      1,151 (18,040บาท)      1,160 (18,180บาท)           1,175 (18,410บาท)