ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 พฤศจิกายน 2557) เป็นไปอย่างผันผวน โดยนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังดัชนีดาวโจนส์พุ่งทำนิวไฮติดต่อกันมาหลายวันแล้ว โดยดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ปิดที่ 17,612.20 จุด ร่วงลง 2.70 จุด หรือ -0.02% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,675.13 จุด เพิ่มขึ้น 14.57 จุด หรือ +0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,038.25 จุด ลดลง 1.43 จุด หรือ -0.07%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากมีรายงานว่าธนาคารรายใหญ่หลายแห่งได้ถูกสั่งปรับเพื่อยุติข้อหาเกี่ยวกับการปั่นค่าเงินในตลาดปริวรรตเงินตรา โดยหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐ อังกฤษและสวิตเซอร์แลนด์ มีคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์ 5 แห่งจ่ายเงินเพื่อยุติข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการปั่นค่าเงินในตลาดปริวรรตเงินตรา โดยธนาคารดังกล่าวได้แก่ซิตี้กรุ๊ป, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, เอชเอสบีซี โฮลดิงส์, รอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ และยูบีเอส ส่วนจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพื่อยุติข้อกล่าวหาในครั้งนี้ มีมูลค่ารวม 3.3 พันล้านดอลลาร์
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้เช่นกันจากกรณีข่าวดังกล่าวกระทบหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยดัชนี Europe Stoxx 600 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 335.09 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,210.96 จุด ร่วงลง 158.07 จุด หรือ -1.69% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,179.88 จุด ลดลง 64.22 จุด หรือ -1.51% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,611.04 จุด ลดลง 16.36 จุด หรือ -0.25%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ยืนยันว่า รัสเซียได้ส่งกองกำลังทหารและอาวุธหนักเข้าไปยังยูเครนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่รัฐบาลของเมืองเคียฟเตือนว่า พื้นที่ทางตอนเหนือของเมืองเคียฟที่กำลังสู้รบกันอยู่นั้น กำลังทวีความรุนแรงจนอาจกลายเป็นสงคราม
ข่าวเด่น