สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 19 พฤศจิกายน 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,192.00-1,201.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,550 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลง 100 บาทต่อบาททองคำจากก่อนหน้าที่ระดับ 18,650 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ14 อยู่ที่ 18,730 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,700 บาท                                                                                                                                

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.00 น. ของวันที่ 19/11/14)
แนวโน้มวันที่ 20 พฤศจิกายน 2557

ความหวังว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะปรับตัวดีขึ้นและจะหนุนให้เศรษฐกิจของยูโรโซนฟื้นตัวขึ้นหลังจากดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมนีที่สูงเกินคาดในเดือนพฤศจิกายนปรับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1ปี ทำให้สกุลเงินยูโรปรับตัวแข็งค่าขึ้นและดึงให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นตาม การขยับขึ้นของราคาทองคำยังไปได้ไม่ไกลมากนักเพราะการร่วงลงของสกุลเงินเยนแตะระดับต่ำสุดในรอบ7 ปี ได้เป็นแรงหนุนให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงรักษาระดับการแข็งค่าไว้ได้ เมื่อธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติคงนโยบายการเงินและมุมมองเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ยังเผชิญกับภาวะถดถอย ประกอบกับ การเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนตุลาคมปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนกันยายนที่ -0.1% มาอยู่ที่ระดับเติบโต 0.2% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น -0.1% ซึ่งแสดงถึงอัตราเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐที่กระเตืองขึ้นบ้าง

ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนตุลาคมในวันพฤหัสบดีนี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไปจะลดลง 0.1% ในเดือนตุลาคม ทั้งนี้แนวโน้มที่บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำมากเป็นเวลานานยิ่งขึ้น แต่หากตัวเลขดังกล่าวออกมาแสดงถึงการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อประเด็นดังกล่าวจะเพิ่มแรงขายที่มากขึ้นเข้ามายังตลาดทองคำ เบื้องต้นวายแอลจียังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,207-1,210 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,188-1,173 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยเสี่ยงซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,188 หรือ 1,173 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น ในระยะสั้นราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในกรอบหากราคาสามารถการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้เกิดแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา แต่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือรับได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,207 หรือ 1,218 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนหากราคาไม่หลุดบริเวณแนวรับ

             ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,188 (18,420บาท)       1,173 (18,190บาท)          1,156 (17,930บาท)  
แนวต้าน      1,207 (18,720บาท)      1,218 (18,890บาท)           1,230 (19,080บาท)     

           GOLD FUTURES (GFZ14)
แนวรับ        1,188 (18,580บาท)       1,173 (18,350บาท)          1,156 (18,080บาท)  
แนวต้าน      1,207 (18,880บาท)      1,218 (19,050บาท)           1,230 (19,240บาท)