- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 พ.ย.57 ปรับเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล มาอยูที่เหนือระดับ 381 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 0.78 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันคงคลังที่จุดส่งมอบ คุชชิ่งก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันราว 0.72 ล้านบาร์เรล หลังการนำเข้าน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น 

 

+ อย่างไรก็ดี การนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อรองรับกับโรงกลั่นที่เสร็จสิ้นจากการปิดซ่อมบำรุงและกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นราว 1.1% มาอยู่ที่ระดับ 91.2% และเพื่อตอบสนองกับความต้องการใช้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในหน้าหนาวของสหรัฐฯ ที่ในปีนี้หน้าเร็วกว่าปกติ โดยเดือน พ.ย. ปีนี้ถือว่าสหรัฐฯ หนาวมากที่สุดในรอบ เกือบ 40 ปี

 

+ ราคาน้ำมันดิบในตลาดถือว่าปรับเพิ่มขึ้นในช่วงต้นของการซื้อ-ขาย หลังนายซาเมียร์ คาคาล เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลลิเบียแสดงความเห็นว่าโอเปกน่าจะมีการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มลงในการประชุมกลุ่มวันที่ 27 พ.ย. นี้ อย่างน้อยก็ราว 600,000 บาร์เรลต่อวัน เพื่อให้กำลังผลิตของกลุ่มกลับมาอยู่ที่โควต้าการผลิตที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังตัวเลขการผลิตของกลุ่มเดือน ต.ค. ออกมาอยู่ที่ 30.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม นายซาเมียร์กล่าวว่าความเห็นครั้งนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวไม่ได้เป็นความเห็นของรัฐบาลลิเบีย และล่าสุดการผลิตน้ำมันดิบลิเบียยังคงอยู่ที่ระดับ 500,000 บาร์เรลต่อวัน

 

+ ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ (สำหรับบ้านเดี่ยว) ซึ่งคิดเป็น 2 ใน 3 ของตัวเลขยอดขายบ้านใหม่รวมของสหรัฐฯ มีการปรับตัวดีขึ้น ขณะที่สัญญาซื้อ-ขายบ้านใหม่สหรัฐฯ เองก็พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนครึ่ง สะท้อนให้เห็นว่าการฟื้นตัวของตลาดบ้านสหรัฐฯ ยังคงดีขึ้นอย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่รวมของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในเดือน ต.ค. มาอยู่ที่  1.009  ล้านยูนิต 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้อินโดนีเซียจะปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินบางกลุ่ม แต่การนำเข้าของอินโดนีเซียยังคงมีอย่างต่อเนื่อง  ประกอบกับมีแรงซื้อจากเวียดนามกลับเข้ามาในตลาดด้วย

 

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ทั้งนี้เนื่องจากอุปทานน้ำมันดีเซลในตลาดยังคงเพียงพอ ประกอบกับโรงกลั่นหลายแห่งในเอเชียเริ่มกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงแล้ว ขณะที่โอกาสในการส่งออกน้ำมันไปยังยุโรปคาดว่าจะมีน้อยลง หลังโรงกลั่นในยุโรปเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเพราะค่าการกลั่นในยุโรปมีแนวโน้มดีขึ้น

 

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 73-78 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 77-83 เหรียญฯ

 

 โรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ เริ่มทยอยกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง รวมถึงอุณหภูมิของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับลดลงมากกว่าคาด ส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น อาจหนุนให้ราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นตาม

 

ติดตามแหล่งผลิตน้ำมันหลัก El Sharara ของลิเบีย ว่าจะสามารถกลับมาผลิตน้ำมันดิบได้ตามปกติหรือไม่ ซึ่งล่าสุดการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียปรับลดต่ำลงแตะระดับ 500,000 บาร์เรลต่อวัน 

 

จับตาท่าทีของสมาชิกกลุ่มโอเปกว่าจะมีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง ในการประชุมกลุ่ม วันที่ 27 พ.ย. นี้หรือไม่ โดยล่าสุดรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของทางซาอุดิอาระเบียและคูเวต เปิดเผยว่า ไม่ควรตื่นตระหนกกับราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และยังคงไม่ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง

 

วันศุกร์ยอดขายปลีกสหรัฐฯ  - ต.ค. 57

ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ- ต.ค. 57

ดัชนีราคาผู้บริโภคยุโรป - ต.ค. 57

จีดีพียุโรป ไตรมาส 3/57

 

วันจันทร์ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ - ต.ค. 57

วันอังคารดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ - ต.ค. 57

วันพุธยอดขอสร้างบ้านใหม่สหรัฐฯ - พ.ย. 57

วันพฤหัสดัชนีภาคอุตสาหกรรมของธนาคารกลางฟิลาเดลเฟีย - พ.ย. 57

ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ - ต.ค. 57

ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ - ต.ค. 57

ดัชนีภาคการผลิตจีน (HSBC flash PMI) - พ.ย. 57

ดัชนีภาคการผลิตยูโรโซน (Markit flash PMI) - พ.ย. 57