ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 พฤศจิกายน 2557) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,719.00 จุด เพิ่มขึ้น 33.27 จุด หรือ +0.19% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,701.87 จุด เพิ่มขึ้น 26.16 จุด หรือ +0.56% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,052.75 จุด เพิ่มขึ้น 4.03 จุด หรือ +0.20%
ในช่วงแรก ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ รวมถึง(PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ย.ของสหรัฐ ร่วงลงแตะ 54.7 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 55.9
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา หลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5% แตะที่ 5.26 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว
สำหรับตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้ (20 พฤศจิกายน 2557) ปิดลบ ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.3% ปิดที่ 338.28 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,234.21 จุด ลดลง 31.98 จุด, -0.75% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 9,483.97 จุด เพิ่มขึ้น 11.17 จุด, +0.12% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,678.90 จุด ลดลง 17.70 จุด, -0.26%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากมีข้อมูลระบุว่าภาคการผลิตของจีนและยูโรโซนชะลอตัวลง ขณะที่ มาร์กิต อิโคโนมิคส์ เปิดเผยว่า ดัชนี PMI เบื้องต้นเดือนพ.ย.ของยูโรโซนร่วงลงแตะระดับ 51.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับเดือนต.ค.ที่ 52.1 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ยูโรโซนอาจจะต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอนาคตอันใกล้ รวมถึงเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนพ.ย.ลดลงแตะ 50.0 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน จาก 50.4 ในเดือนต.ค. ส่งสัญญาณว่าภาคการผลิตของจีนยังคงเผชิญกับแรงกดดัน
ข่าวเด่น