สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 25 พฤศจิกายน 2557ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,196.00-1,202.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,600 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ14 อยู่ที่ 18,750 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,700 บาท                                                                                                                                
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.53 น. ของวันที่ 25/11/14)

แนวโน้มวันที่ 26 พฤศจิกายน 2557
บรรยากาศการซื้อขายของตลาดทองคำราคายังคงเคลื่อนไหวในกรอบที่ไม่กว้างมากนักและภาวะการซื้อขายค่อนข้างสงบเงียบ นักลงทุนรอฟังข่าวจากการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อดูว่ากลุ่มโอเปกจะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลงหรือไม่ ซึ่งทิศทางราคาทองคำมักเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันตลาดโลก

ทั้งนี้ รัสเซียเสนอว่ารัสเซียอาจจะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลงราว 300,000 บาร์เรลต่อวัน เพราะรัสเซียจำเป็นต้องหนุนราคาน้ำมันดิบให้พุ่งขึ้นเพื่อจะได้ช่วยพยุงเศรษฐกิจรัสเซีย ขณะที่รัฐมนตรีน้ำมันบางคนในกลุ่มโอเปกกำลังพิจารณาเรื่องการให้กลุ่มโอเปกปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลงราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือสูงกว่านั้นเพราะหากการลดการผลิตเพียงเล็กน้อยจะไม่เพียงพอที่จะคลายวิตก เนื่องจากอุปทานจำนวนมากในตลาดน้ำมัน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการผลิตน้ำมันจากหินน้ำมัน (Shale) ของสหรัฐและอุปสงค์ที่ชะลอตัว

เหตุผลดังกล่าวส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายน้ำมันในตลาดยังคงมีความผันผวน โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดิ่งลง 34% แล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายนสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีที่ 76.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เกิดกระแสการคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์อาจดิ่งสู่ระดับ 60 ดอลลารร์บาร์เรล ถ้าหากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่เห็นพ้องกับการปรับลดกำลังการผลิตลงอย่างมากในการประชุมที่กรุงเวียนนาในวันพฤหัสบดีนี้ ความกังวลเกี่ยวกับทิศทางราคาน้ำมันที่อาจจะปรับตัวลดลงต่อได้กดดันแรงซื้อที่เข้ามาในตลาดทองคำ สำหรับแนวโน้มระยะสั้นประเมินว่าหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,190-1,182 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้เชื่อว่าจะเกิดแรงซื้อที่สามารถดันปรับตัวขึ้นไปสู่แนวต้านได้แต่หากแรงซื้อไม่มากพอก็อาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,190 หรือ 1,182 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีโอกาสขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,207-1,210 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรเพียงบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,190-1,182 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนในระยะสั้นและระยะกลางหากราคาการย่อตัวลงมาและสามารถตั้งฐานบริเวณแนวรับดังกล่าวได้แข็งแกร็งสามารถเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติม
            
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,190 (18,460บาท)       1,182 (18,340บาท)          1,175 (18,230บาท)  
แนวต้าน      1,207 (18,730บาท)       1,216 (18,930บาท)          1,230 (19,090บาท)     

           GOLD FUTURES (GFZ14)
แนวรับ        1,190 (18,600บาท)       1,182 (18,480บาท)          1,175 (18,370บาท)  
แนวต้าน      1,207 (18,870บาท)       1,216 (19,070บาท)          1,230 (19,230บาท)