สรุปภาวะตลาดวันก่อน: SET +3.18 จุด ขึ้นตามหุ้นโลก ข้อมูลศก.สหรัฐฯ แข็งแกร่ง
SET แกว่งในกรอบ 1592-1599 โดยอิงในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก ขานรับข้อมูลศก.สหรัฐฯ แข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี กรอบแกว่งขึ้นถูกจำกัด เนื่องจากนลท.รอดูผลการประชุม ECB 4 ธ.ค. ต่างชาติพลิกมาขายสุทธิ 1.23 พันลบ. และ Short S50 Futures 1,854 สัญญา เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน
ทิศทางตลาดวันนี้: ไซด์เวย์กรอบ 1590-1605 บาทอ่อนจำกัด upside ระยะสั้น
หุ้นโลกเมื่อคืนวันศุกร์ (5 ธ.ค.) ปิดบวก จากข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ เดือน พ.ย. เพิ่มขึ้นอย่างมาก 321,000 ตำแหน่ง สูงที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี ขณะที่อัตราการว่างงานสหรัฐฯ ทรงตัวในระดับต่ำสุดรอบ 6 ปี ที่ 5.8% ด้านผลการประชุม ECB คงอัตราดบ.นโยบายที่ 0.05% ตามคาด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ปรับลดแนวโน้มการขยายตัวของศก.ยูโรโซนในปี 58F ลงสู่ 1.0% จาก 1.6% ที่เคยคาดไว้ในเดือน ก.ย. พร้อมทั้งคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ระดับเพียง 0.7% ในปี58F ลดลงจากการคาดการณ์ในเดือน ก.ย.ที่ 1.1% นอกจากนี้ ปธ.ECB จะพิจารณาเพิ่มมาตรการกระตุ้นศก.หรือไม่ในการประชุมต้นปีหน้า ดัชนีชี้วัดค่าเงินดอลลาร์ฯ (US Dollar Index) ที่แข็งค่าสุดใหม่ในรอบเกือบ 6 ปีตามศก.สหรัฐฯ กระตุ้นแรงขายต่างชาติจากบาทอ่อนค่า แต่เม็ดเงิน LTF & RMF ที่ทยอยไหลเข้ายังช่วยหนุน SET ทรงตัวสูงแถวระดับ 1600 จุด มอง SET แกว่งไซด์เวย์กรอบจำกัด มีแนวต้าน 1600-05 แนวรับ 1590+/- อนึ่ง หุ้น BGT, BKD, BKD-W1, CBG, GRAMMY, MTLS, NBC, NBC-W1, NCL, NPP, NPP-W1 ติด Cash Balance 8 ธ.ค. 57 – 16 ม.ค. 58, ACD, ACD-W2 ติด Cash Balance 8-12 ธ.ค. 57
กลยุทธ์การลงทุน: ทยอยสะสมหุ้นกลาง-ใหญ่ รับประโยชน์ LTF&RMF ไหลเข้า
เราคาดเม็ดเงินจาก LTF และ RMF จะไหลเข้าเดือน ธ.ค. นี้ราว 2 หมื่นลบ. และจะเป็นปัจจัยกระตุ้นหลักให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อได้ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งเดือนหลัง จากการศึกษาข้อมูลความเคลื่อนไหวหุ้นไทยในอดีตเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา (นับตั้งแต่ปี 48 ที่เริ่มมี LTF แล้ว) มีโอกาสสูงถึง 78% ที่ SET เดือน ธ.ค. จะปรับตัวขึ้น โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 2.7% หรือมักถูกเรียกว่า “December Effect” เรายังคงมอง SET จะยืนปิดสิ้นปีนี้เหนือระดับ 1600 จุด และคาดว่าจะวิ่งขึ้นทดสอบ 1650-1700 จุดใน 1Q58 จาก (1) การฟื้นตัวทางศก.ที่เร่งตัวขึ้นตลอดในช่วง 6 เดือนข้างหน้า (2) เม็ดเงินไหลเข้าจาก LTF และ RMF (3) แรงผลักดันด้านสภาพคล่องโลก จากแนวโน้มการผ่อนคลายมาตรการเงินเพิ่มในอนาคตจาก ECB, PBOC
•หุ้นเทรดดิ้งสั้น – หุ้นได้ประโยชน์บาทอ่อน หลังดอลล์แข็งค่า TUF, GFPT, STPI, KCE, HANA / ครม.อนุมัติ MOU รถไฟรางคู่ CK, SCC, SEAFCO, UNIQ / หุ้นมีสัญญาณเชิงบวก INTUCH, SIM, SST
•หุ้นเด่น TISCO Weekly Stock Guru (8-12 ธ.ค.) คือ INTUCH, SIM / ขายทำกำไร SST / ตัดขาดทุน NOK / ถือต่อ CK, SPALI, UNIQ / ผลสำรวจกูรูมอง SET สัปดาห์นี้หลุดแนวรับ 1585 มีโอกาสราว 56%
•Top picks ธ.ค. (TISCO Smart Tactics) คือ ANAN, AP, ASP, CK, CPN, INTUCH, KBANK, MINT, SEAFCO, SPALI, TRUE
หุ้นเด่นรายวัน: INTUCH
INTUCH - เรามองหุ้น INTUCH เป็น 1 ในเป้าหมายการเข้าซื้อของกองทุน LTF และ RMF เนื่องจากเป็นหุ้นขนาดใหญ่ และมีปันผลจ่ายระดับสูง เฉลี่ยปีละ 6-7% โดย ADVANC ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ INTUCH ถือหุ้นอยู่ 40.4% คาดว่าจะมีกำไรเติบโตโดดเด่น 15.7% ในปี 58F จากการขยายธุรกิจบรอดแบนด์ ขณะที่ราคาหุ้น INTUCH ปัจจุบันที่ 76.5 บ. มีส่วนลดจาก NAV ที่ราว 98 บ. มากสุดในรอบ 1 ปี และราคา laggard โดย YTD INTUCH +12.9% vs ADVANC +24.3% มูลค่าเหมาะสม 87 บาท (SOTP)
ปัจจัยติดตาม
8 ธ.ค.
JP, CHตัวเลข GDP ญี่ปุ่นในไตรมาส 3/57 (สุดท้าย), ตัวเลขส่งออก-นำเข้า และดุลการค้าจีนใน พ.ย.
EU, GEประชุมรัฐมนตรีคลังสหภาพยุโรป, ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันในเดือน ต.ค.
9 ธ.ค.
THรมว.คลังเตรียมชงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 เข้าครม.
GE, USส่งออก-นำเข้า, ดุลการค้า, ดุลบัญชีเดินสะพัดเยอรมันใน ต.ค.,สต็อกภาคค้าส่งสหรัฐฯ ใน ต.ค.
ข่าวเด่น