พิษราคาน้ำมันร่วง ส่งผลนักลงทุนกระหน่ำเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ฉุดตลาดหุ้นสำคัญของโลกทั้งอเมริกาและยุโรปดัชนีตกวูบ โดยตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ธันวาคม 2557) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,852.48 จุด ร่วงลง 106.31 จุด หรือ -0.59% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,740.69 จุด ลดลง 40.07 จุด หรือ -0.84% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,060.31 จุด ลดลง 15.06 จุด หรือ -0.73%
หลังนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กร่วงลงมากกว่า 2.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ภายหลังจากมีรายงานว่า อิรักซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับสองของกลุ่มโอเปค ได้ประกาศลดราคาน้ำมันอย่างเป็นทางการให้กับลูกค้าในประเทศเอเชียและสหรัฐ โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค.ปีหน้า
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 3.67% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 2.26% หุ้นชลัมเบอร์เกอร์ปรับตัวลง 3.4% ส่วนหุ้นเดนเบอรี รีซอสเซส และหุ้นเอ็นส์โค ต่างก็ปรับตัวลงอย่างน้อย 6.7%
ขณะตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ธันวาคม 2557) เช่นกัน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.7% ปิดที่ 348.61 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,375.48 จุด ลดลง 44.00 จุด หรือ -1.00% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,014.99 จุด ลดลง 72.13 จุด หรือ -0.72% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,672.15 จุด ลดลง 70.69 จุด หรือ -1.05%
ตลาดหุ้นยุโรปถูกฉุดปิดในแดนลบ เนื่องจาก หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 2.1% และหุ้นโททาล ดิ่งลง 1.9% ขณะที่หุ้นกลุ่มก่อสร้างปรับตัวลงเช่นกัน หลังมีรายงานว่า บริษัทเซนท์-โกเบียน เสนอซื้อหุ้นมูลค่า 2.75 พันล้านฟรังค์สวิสในบริษัทซีกา ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นเซนท์-โกเบียน ร่วงลง 6.2%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานของกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีที่ระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.ขยายตัว 0.2% ซึ่งชะลอตัวลงจากอัตราการขยายตัวที่ 1.1% ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 0.4%
ข่าวเด่น