+/- ตัวเลขรายงานจากบริษัท Baker Hughes  ประกาศตัวเลขการขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ในสหรัฐฯ ลดลง 29 แห่ง จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 1,564 แห่ง โดยนับเป็นการปรับลดลงที่มากในรอบ 2 ปี  เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในระดับต่ำกดดันรายได้ของผู้ประกอบการ แม้ตัวเลขที่ลดลงจะสนับสนุนราคาน้ำมัน อย่าไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่าควรจับตาตัวเลขการขุดเจาะนี้ เนื่องจากในปี 2556 ตัวเลขการขุดเจาะอยู่เพียง1,411 แห่ง น้อยกว่าปีนี้กว่า100 แห่ง 

 

- ดัชนีเศรษฐกิจในจีน ยุโรป และสหรัฐฯ ยังไม่ดีนัก หลังตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีน เดือน พ.ย. 57 ขยายที่ 7.2% น้อยกว่าคาด จากความอ่อนแอในภาคการขนส่งและเหมืองแร่ ประกอบกับภาครัฐสั่งปิดโรงงานบางแห่งในปักกิ่งและเมืองรอบข้างระหว่างการประชุมเอเปคในช่วงต้นดือนพ.ย. เพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศ  นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกจีน  เดือน พ.ย. 57 ขยายตัว 11.7% น้อยกว่าคาดเช่นกัน โดยเฉพาะการใช้จ่ายประเภทสินค้าฟุ่มเฟือย ทำให้ตลาดกังวลว่าเศรษฐกิจจีนอาจเข้าสู่ภาวะเงินฝืด สำหรับตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยูโรโซน เดือน ต.ค. 57 ขยายตัวเพียง 0.1% จากการลดลงของกลุ่มพลังงาน ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในการประชุมเดือน ม.ค. 58  นี้ นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ เดือน พ.ย. 57 ปรับลดลงน้อยกว่าคาดเช่นกัน  อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน ธ.ค.57 ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 8 ปี ที่ระดับ 93.8 หลังการฟื้นตัวของการจ้างงาน และการลดลงของราคาพลังงาน

 

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานที่หายไปจากตลาด หลังโรงกลั่นหลักในไต้หวันมีการปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินในช่วงเย็นของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะใช้เวลาซ่อมบำรุงประมาณ 17-21 วัน นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันชนิดเบาที่สิงคโปร์ปรับลดลง 4.9% จากสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ดี อุปสงค์ในภูมิภาคโดยเฉพาะจากจีน เวียดนาม และอีนโดนีเซียยังคงเบาบาง

 

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์คาดว่าจะลดลงเล็กน้อย หลังจีนประกาศเก็บภาษีน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่สอง ในรอบสองสัปดาห์ โดยเพิ่มขึ้นประมาณ17% ซึ่งมีผลตั้งแต่วันเสาร์13 ธ.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี อุปทานลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินของโรงกลั่นน้ำมันในไต้หวัน ประกอบกับสต็อกน้ำมันชนิดกลางที่สิงคโปร์ปรับลดลงประมาณ 10% จากสัปดาห์ก่อน 

 

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 56-61 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 60-65 เหรียญฯ

 

จับตาการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟดในวันที่ 16-17 ธ.ค. 57 นี้ ตลาดมีความกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ซึ่งหากเฟดปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจจะส่งผลกดดันราคาน้ำมันดิบได้ เนื่องจากนักลงทุนจะเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและหันไปฝากเงินมากขึ้น 

 

การประชุมแบบเร่งด่วนของกลุ่มโอเปกว่าจะสามารถจัดขึ้นได้เมื่อไร หลังจากเวเนซุเอลาและไนจีเรีย หารือว่าจะมีการจัดการประชุมแบบเร่งด่วนขึ้นก่อนที่จะมีการประชุมโอเปกครั้งถัดไปในเดือน มิ.ย. 58 เพื่อปรึกษาถึงมาตรการที่จะพยุงราคาน้ำมันดิบไม่ให้ลดลงต่ำไปมากกว่านี้ 

 

 จับตาทิศทางการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น ในการแก้ไขปัญหาเงินฝืดและสภาวะเศรษฐกิจหดตัว ภายหลังจากมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 14 ธ.ค. 57 ที่ผ่านมา ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นนั้นซบเซาและชะลอตัวอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 โดยจีดีพีในไตรมาสที่ 3 ติดลบ 0.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ 

 

วันศุกร์ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีน - พ.ย. 57

ยอดค้าปลีกจีน - พ.ย. 57

ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยูโรโซน - ต.ค. 57

ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ - พ.ย. 57

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ - ธ.ค.57

วันจันทร์ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ -พ.ย. 57

วันอังคารตัวเลขดุลการค้ายูโรโซน - ต.ค. 57

ยอดขายร้านค้าสาขาสหรัฐฯ - ธ.ค. 57  

ยอดการขอสร้างบ้านใหม่ - พ.ย. 57

วันพุธอัตราเงินเฟ้อยูโรโซน - พ.ย. 57

อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ - พ.ย. 57

วันพฤหัสบดีอัตราดอกเบี้ยเฟด

ดัชนีราคาบ้านจีน - พ.ย. 57