ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับฐานลงต่อจากปลายปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มธนาคารถูกลดน้ำหนักอย่างโดดเด่น หลังมีโบรกเกอร์ต่างชาติปรับน้ำหนักลงมาเป็น Underweight บวกกับ PTT / PTTEP ที่ลดลงแรงจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงทดสอบแนว US$50/barrel ขณะที่มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบาง ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบทั้งสิ้น 14.42 จุด มาอยู่ที่ 1,483.25 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 29,722 ล้านบาท
แม้ว่าต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทย 1,847 ล้านบาท น่าจะเป็นการลดน้ำหนักในกลุ่มน้ำมัน และกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวลงแรงวานนี้ แต่คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 8 อีก 3,989 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทยเป็นวันที่ 3 อีก 2,648 ล้านบาท ส่งสัญญาณเงินทุนต่างชาติเป็นกลาง
ปัจจัยสำคัญวันนี้
· ราคาน้ำมันดิบ NYMEX หลุด US$50/barrel ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีครึ่ง สร้างแรงกดดันต่อ PTT / PTTEP แต่เป็นบวกต่อกลุ่มสายการบิน
· เช้านี้ติดตามตัวเลข HSBC PMI ภาคบริการของจีน เดือนธ.ค.
· ติดตามการหารือการจัดทำงบประมาณปี 2559 หลัง รมว.คลัง เสนอทำงบประมาณขาดดุลมากขึ้นจากปีงบประมาณ 2558 ที่ขาดดุล 2.0 แสนล้านบาท เพื่อนำเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจ
· ติดตาม การหารือของผู้นำไทย - พม่า วันที่ 8-9 ม.ค.ต่อโครงการทวาย อาจมีการประกาศแผนการลงทุนเฟดเริ่มต้นให้แก่ ITD / ROJNA
· ขณะที่ Risk Free Rate ของไทยลดลงแรง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปีวานนี้ลดลงมากถึง 22.49bps ปิดที่ 2.603% เมื่ออัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค.ทำระดับต่ำสุดในรอบ 62 เดือน สะท้อนโอกาสที่กนง.จะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายภายใน 1Q58 มีน้ำหนักมากขึ้น
· ความเสี่ยงทางการเมืองในกรีซ อาจสร้างความผันผวนต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรปช่วงสั้น เพราะเชื่อว่ากรีซจะออกจากระบบอียูเป็นไปได้ค่อนข้างยาก
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองต่อการลงทุนวันที่ 2 ของปี 2558 ระดับ ?กลาง? ต่อเนื่องจากวานนี้ และให้น้ำหนักแนวรับ 1,470-1,480 จุด จะทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าวันนี้หุ้นหลักอย่าง PTT / PTTEP จะยังปรับตัวลงแรงต่อ หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงทำระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปีก็ตาม แต่ราคาน้ำมันที่ลดลงกลับเป็นบวกต่อกลุ่มสายการบินในทางตรง และทางอ้อมในแง่ของต้นทุน ของกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง/ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง / กลุ่มที่อยู่อาศัย รวมถึงภาคการบริโภคภายในประเทศ เมื่ออัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ
ขณะที่เราให้ความสนใจกับกรณีผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยที่ลดลงแรงวานนี้ โดยเฉพาะอายุ 10 ปี ซึ่งถือเป็นตัวแทนของ Risk Free Rate ของตลาดหุ้นไทย ลดลงเหลือ 2.603% สะท้อนมุมมองของตลาดต่อโอกาสที่กนง.จะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ย RP1 วันลงเหลือ 1.75% มีความเป็นไปได้มากขึ้น กลายเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมของตลาดหุ้นไทย รวมไปถึงกลุ่มอสังหาฯ และหุ้นปันผล ขณะที่หุ้นหลักในกลุ่มธนาคารจะได้รับผลกระทบช่วงสั้น หาก กนง. ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจริง แต่ความกังวลดังกล่าวเริ่มสะท้อนมายังราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรงวานนี้แล้วเช่นกัน
ตลาด Nikkei / Kospi เช้านี้ (7.29 น) เปิดปรับตัวลงต่อเนื่องจากวานนี้ โดยเฉพาะ Nikkei -2.09% จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงคืนวานนี้
กลยุทธ์การลงทุน
เราแนะนำ "นักลงทุนควรพิจารณาทยอยสะสมหุ้นที่ผลการดำเนินงานใน 4Q57 เติบโตเด่น หรือผลตอบแทนเงินปันผลงวดปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 5%" เป็นทางเลือก ขณะที่นักลงทุนสามารถเก็งกำไรระยะสั้นต่อกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงในช่วงสั้นนี้
Portfolio
Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB
HOLD: ITD / TPIPL
Accumulative Buy: BJCHI
Trading Buy: AAV
ข่าวเด่น