ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ดีดตัวขึ้นทดสอบแนว 1,520 จุด ผลักดันด้วย PTT / กลุ่มธนาคาร อีกทั้งบรรยากาศการลงทุนรอบเอเชีย และยุโรป เป็นบวก ส่งผลให้ SET INDEX ปิดยืนเหนือแนวดังกล่าวได้ มาอยู่ที่ 1,521.62 จุด บวกเป็นวันที่ 2 อีก 20.87 จุด หรือ 1.39% ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากถึง 53,937 ล้านบาท

เงินทุนต่างชาติมีความน่าสนใจ หลังกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ 1,217 ล้านบาท คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 2,327 สัญญา อาจเป็นการโยกเงินจากตลาดตราสารหนี้ ด้วยการขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 3,642 ล้านบาท

 

·        ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ทรงตัวต่อเนื่องเป็นวันที่ 2

·        ประธาน ECB ส่งสัญญาณพร้อมเพิ่มมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงิน รวมถึงการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล ในการประชุมวันที่ 22 ม.ค.

·        ติดตามตัวเลขการจ้างงานเดือนธ.ค.ของสหรัฐฯ ในคืนนี้ Bloomberg consensus คาดอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 5.70% จากเดือนก่อนหน้าที่ 5.80%

 

·        ติดตามรายงาน Beige Book ของเฟดในวันที่ 15 ม.ค. เพื่อประเมินภาพรวมเศรษฐกิจ และภาวะเงินเฟ้อที่เป็นปัจจัยเสี่ยงใหม่ที่เฟดเริ่มให้น้ำหนัก และอาจมีผลต่อการกำหนดทิศทางนโยบายการเงิน

 

·        ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อ และผลผลิตภาคอุตฯ ของอียู และ อังกฤษ / ภาวะการจ้างงาน และยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ / อัตราเงินเฟ้อ และดุลการค้าของจีน / ดัชนีราคาผู้ผลิตของ ญี่ปุ่น

 

เราคงมุมมองการลงทุนด้วยระดับ “กลาง” เป็นวันที่ 5 หลัง SET INDEX ไต่ระดับขึ้นกว่า 50 จุดจากระดับต่ำสุดของปี อีกทั้งเป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ และนักลงทุนส่วนใหญ่ต่างรอดูตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ในคืนนี้ เชื่อว่า SET INDEX จะเริ่มแกว่งในกรอบแคบมากขึ้น ประเมินกรอบแกว่งวันนี้ 1,515 – 1,530 จุด หุ้นหลักกลุ่มธนาคาร / ICT จะเป็นตัวแปรสะท้อนกระแสเงินทุนต่างชาติในวันนี้

 

และเมื่อ SET INDEX ปิดทะลุแนว 1,520 จุด บวกกับกระแสเงินทุนต่างชาติที่พลิกกลับมาสะสมหุ้นไทยอีกครั้ง แม้ว่าจะยังไม่หนาแน่น อีกครั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทรงตัวมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ Downside risk ของ SET INDEX ช่วงสั้นเป็นไปอย่างจำกัดเช่นกัน รวมถึงกรอบด้านบนได้ถูกขยับขึ้นสู่เป้าหมาย 1,550 จุด จากเดิมที่เราประเมินไว้เพียง 1,520 จุดเท่านั้น 

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในสัปดาห์หน้าคือ อันดับความน่าเชื่อถือของรัสเซีย หลังบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทั้ง S&P / Moody’s / Fitch Rating ส่งสัญญาณพร้อมปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัสเซีย จากผลกระทบของราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำ หากถูกปรับลงสู่ Junk Bond อาจสร้างความผันผวนต่ออัตราแลกเปลี่ยน และบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงช่วงสั้นๆ ได้ แต่นั่นคือโอกาสของการเข้าสะสมหุ้นหลักอีกครั้ง เพื่อเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงานใน 4Q57 และผลการประชุม ECB ในวันที่ 22 ม.ค. ซึ่งน่าจะตัดสินใจเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลของประเทศสมาชิกในกลุ่มอียู

 

ตลาด Nikkei / Kospi เช้านี้ (7.17 น) เปิดบวก ต่อเนื่องจากวานนี้ สอดคล้องกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ คืนวานนี้ และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกฟื้นตัวเล็กน้อย

 

เราแนะนำ “นักลงทุนที่ขายทำกำไรไปวานนี้ หากหุ้นเป้าหมายราคาย่อตัวลง อาจพิจารณากลับเข้าทยอสะสมอีกครั้ง” หลัง SET INDEX ปิดยืนเหนือ 1,520 จุดวานนี้ ดีกว่าคาด ทั้งนี้ภาพกลยุทธ์โดยรวมเป็นแบบ “ขึ้นแรงขาย / ลงแรงซื้อ” เช่นเดิม

 

 

Top Pick in 1Q15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB

 

HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB

 

Accumulative Buy: ITD / TTA