ตลาดหุ้นโลกปิดตลาดเมื่อคืนนี้ (8 มกราคม 2558) สดใส รับข่าวตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้น และกระแสข่าวที่ธนาคารกลางยุโรปหรืออีซีบีอาจใช้มาตรการคิวอีอีกรอบ ผลักดันให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,907.87 จุด พุ่งขึ้น 323.35 จุด หรือ +1.84% , ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,736.19 จุด เพิ่มขึ้น 85.72 จุด หรือ +1.84% , ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,062.14 จุด เพิ่มขึ้น 36.24 จุด หรือ +1.79%
ส่วนตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.8% ปิดที่ 342.35 จุด , ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,260.19 จุด พุ่งขึ้น 147.46 จุด หรือ +3.59% , ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 9,837.61 จุด พุ่งขึ้น 319.43 จุด หรือ +3.36% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,569.96 จุด เพิ่มขึ้น 150.13 จุด หรือ +2.34%
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 294,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ม.ค. ซึ่งเป็นปัจจัยบวกผลักดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น เนื่องจากตลาดยังคาดหวังว่า เฟดจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังรายงานการประชุมของเฟดเมื่อวันที่ 16-17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของเฟดได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงช่วงขาลงที่อาจจะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่เศรษฐกิจโลกอาจเผชิญความเสี่ยง หากการลดลงของราคาน้ำมันได้ส่งผลกระทบเชิงลบอย่างรุนแรงต่อตลาดการเงินทั่วโลก หรือหากไม่มีการรับมือด้านนโยบายอย่างเพียงพอ
ด้านฝั่งยุโรป ปัจจัยบวกที่ผลักดันให้ตลาดหุ้นขึ้นมาจากนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ครั้งใหม่ ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตร หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซน ลดลงสู่ระดับ -0.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 0.3% ในเดือนพ.ย. โดยนับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ CPI ยูโรโซนอยู่ในระดับติดลบ
ข่าวเด่น