สรุปภาวะตลาดวันก่อน: SET +20.87 จุด FED ไม่รีบขึ้นดบ., หวัง ECB ออก QE
SET เปิดภาคเช้ากระโดดขึ้นทันที 14 จุด ตามบรรยากาศเชิงบวกจากหุ้นตปท. หลังรายงานประชุม FED ครั้งก่อน ไม่รีบร้อนขึ้นดบ.ก่อน เม.ย. 58 ขณะที่เงินเฟ้อสหภาพยุโรป ธ.ค. ที่ติดลบ 0.2% ครั้งแรกในรอบมากกว่า 5 ปี หนุนความคาดหวังมากขึ้นเกี่ยวกับ ECB จะออกมาตรการ “Public QE” เร็วขึ้น ต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิ 1.22 พันลบ. หลังจากที่ขายมา 4 วันต่อเนื่อง
ทิศทางตลาดวันนี้: ซิกแซกขึ้นต่อ แม้ระหว่างวันจะผันผวนจากแรงขายทำกำไร
หุ้นโลกเมื่อคืน (8 ม.ค.) ดีดกลับกันถ้วนหน้า ยังได้แรงหนุนต่อเนื่องจาก FED ยังไม่รีบร้อนขึ้นดบ.ก่อนเดือน เม.ย. และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ 2.94 แสนราย ลดลง 4 พันราย และความคาดหวังมากขึ้นเกี่ยวกับ ECB จะออกมาตรการ “Public QE” เร็วขึ้นทำให้ค่าเงิน Euro มีแนวโน้มที่อ่อนตัวลงเป็น 1.185 USD/Euro ซึ่ง ECB จะประชุม 22 ม.ค. นี้ มอง SET ซิกแซกขึ้น ระหว่างวันผันผวนจากแรงขายทำกำไร หลังขึ้นเร็วช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา แนวรับ 1515+/- แนวต้าน 1535-40 เราคาดหุ้น EE, WAT, AGE, ECF, KCM, WAT-W1, WAT-W2 ติด Cash Balance เย็นนี้ (9 ม.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน: ทยอยสะสมช่วง 1-2 สัปดาห์นี้, เทรดสั้นเล็งขายที่ 1520++
เรายังคงเป้า SET ปี 58 ที่ 1710 จุด (อิงจาก Fwd. PER 13.5 เท่าปี 59F หรือ +0.5SD) แต่มองแนวโน้มผันผวนมากขึ้น จาก (1) โอกาสที่ FED อาจขึ้นอัตราดบ.นโยบายในปี 58 ซึ่งโดยปกติในอดีต มักจะมีผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความผันผวน (2) การประเมินมูลค่าหุ้นไทยไม่ถูกเหมือนช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยคิดเป็น Fwd. PER ปี 58F ที่ 13.7 เท่า vs ค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปีย้อนหลังที่ 12.3 เท่า และ +1SD ที่ 14.5 เท่า (3) ปท.ไทยขณะนี้ อยู่ในช่วงปฏิรูป ดังนั้นต้องติดตามว่าจะมีความคืบหน้าตามกรอบเวลา (Roadmap) ที่วางไว้หรือไม่ เรามองมีโอกาสราว 83% ที่จะไม่มีผลกระทบ “January Effect” เกิดขึ้นในเดือน ม.ค. ปีนี้ เรามองการลงทุนปี 58 จังหวะการลงทุนและการเลือกหุ้นเป็นรายตัว (Selective Buy) จะมีความสำคัญมากขึ้น โดยใน ม.ค. ปีนี้ คาดว่าหุ้นไทยจะผันผวนจากแรงขายเม็ดเงิน LTF ครบกำหนด 5 ปี (ของปี 54) อิงจาก LTF ที่ครบกำหนด 5 ปีในอดีตที่มักจะขายออกมาราว 25-30% จะคิดเป็นเม็ดเงินไหลราว 6-7 พันลบ. ดังนั้นในแง่ของกลยุทธ์เดือน ม.ค. เราแนะนำทยอยสะสมหุ้นช่วงอ่อนตัวในครึ่งเดือนแรก หลังจากนั้น SET คาดว่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัวในช่วงครึ่งเดือนหลัง หุ้นที่น่าสะสม เพื่อลงทุนในช่วงไตรมาส 1/58 นี้ คือ AMATA, BBL, BGH, CPN, DTAC, HMPRO, INTUCH, KBANK, KTB, SPALI ด้านหุ้นเด่น (Top picks) สำหรับเดือน ม.ค. คือ BEAUTY, BTS, GFPT, MALEE, SCB, TMB จากแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่ดีในปีนี้ นอกจากนี้ มองเป็นจังหวะทยอยเก็บหุ้นปันผลด้วยช่วงอ่อนตัว แนะนำ MODERN, ASP, INTUCH, BJCHI, BTS, AIT, KKP หุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวก เหมาะเทรดดิ้งสั้น CPN, THCOM, PS, LH
หุ้นเด่นรายวัน: KBANK
KBANK – หุ้นกลุ่มธนาคารที่มีผลประกอบการที่เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มที่มีแนวโน้มลดลงประมาณ 2% ใน 4Q57F จากรายได้ NII และ non-NII ที่แข็งแกร่ง โดยเราคาดว่า KBANK จะรายงานผลประกอบการปี 2557F ที่ 4.66 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 13% YoY และได้ประโยชน์จากธุรกิจ SME ที่ฟื้นตัว มูลค่าเหมาะสม 253 บ. (GGM)
ปัจจัยติดตาม
9 ม.ค.
THสนช.เปิดคดีถอดถอนอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์
JPตัวเลขดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ในเดือน พ.ย. (เบื้องต้น)
CHตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค-ผู้ผลิตจีน, ปริมาณเงินในระบบ และการปล่อยสินเชื่อเงินหยวนใน ธ.ค.
GEตัวเลขส่งออก-นำเข้า, ดุลการค้า, ดุลบัญชีเดินสะพัด, ผลผลิตภาคอุตฯ เยอรมันใน พ.ย.
USการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ใน ธ.ค., สต็อกสินค้าภาคค้าส่งใน พ.ย.
12-21 ม.ค.
THกลุ่มธนาคารพาณิชย์ทยอยประกาศผลประกอบการปี 57
13 ม.ค.
JPตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลการชำระเงินของญี่ปุ่นในเดือน พ.ย.
CH, USตัวเลขส่งออก-นำเข้า และดุลการค้าของจีนใน ธ.ค., ตัวเลขงบประมาณรายเดือนของสหรัฐฯ ใน ธ.ค.
ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research
ข่าวเด่น