สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 12 มกราคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,220.18-1,231.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,050 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาท ก่อนหน้าที่ระดับ 18,900 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG15 อยู่ที่ 19,190 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,040 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.04 น.ของวันที่ 12/01/14)
แนวโน้มวันที่ 13 มกราคม 2558
             
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 ตำแหน่งเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่งที่ 5.6% แต่อย่างไรก็ตาม ข้อมูลค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยต่อชั่วโมง (Average hourly earning) กลับลดลงลดลง 0.2 % ในเดือนธันวาคม โดยปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบ 8 ปี ได้บ่งชี้ถึงการจ้างงานที่ยังคงไม่แข็งแกร่งพอที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2015 ประเด็นดังกล่าว เจ้าหน้าที่เฟดสองท่านที่มีมีสิทธิออกเสียงในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) ปีนี้ คือ นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา และ นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา เรียกร้องให้เฟดเลื่อนเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปสู่ปี 2016 เนื่องจากค่าจ้างแรงงานเติบโตอย่างเชื่องช้าและอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่ 2 % ข้อมูลดังกล่าวหนุนแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดทองคำ จนราคาปิดตลาดรายสัปดาห์ในแดนบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ และราคาทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนในสัปดาห์ นี้

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินขยับลง หลังจากแตะจุดสูงสุดรอบ 9 ปีที่ 92.528 ในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของตลาดแรงงานสหรัฐเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนราคาทองคำ เบื้องต้นวายแอลจียังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,237-1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,213-1,203 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากแนวรับนี้ไม่สามารถรับได้ นักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวลงต่อของราคาทองคำ
        
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,213-1,203 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวแบบ Sideway Up โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบในทิศทางที่ขยับขึ้น โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,237-1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับ

                 ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,213 (18,850บาท)       1,203 (18,690บาท)          1,190 (18,490บาท)  
แนวต้าน      1,237 (19,220บาท)       1,247 (19,380บาท)          1,255 (19,500บาท)     

           GOLD FUTURES (GFG15)
แนวรับ        1,213 (19,040บาท)       1,203 (18,890บาท)          1,190 (18,680บาท)  
แนวต้าน      1,237 (19,420บาท)       1,247 (19,570บาท)          1,255 (19,700บาท)