SET ผันผวนในกรอบค่อนข้างกว้าง ระหว่าง 1515-37 โดยภาคเช้า เปิดกระโดดลงจากแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี-โภคภัณฑ์ ตามราคาน้ำมันที่ร่วงลงต่ำสุดใหม่รอบ 5 ปีต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ส่งออกจีน ธ.ค. ที่ดีกว่าคาด ช่วยดึงหุ้นไทยฟื้นตัวตามภูมิภาค ประกอบกับมีแรงซื้อเก็งงบ Q4  ต่างชาติขายสุทธิ 3 วันติด อีก 2.08 พันลบ

 

ทิศทางตลาดวันนี้: ถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ วัดกำลังกันที่แนวต้าน 1535-40

หุ้นโลกเมื่อคืน (13 ม.ค.) ผันผวนสูง โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ (DJIA) จาก +282 จุดระหว่างวัน พลิกมาปิดลบ 27 จุด เนื่องจากมีแรงขายทำกำไรตามราคาน้ำมันที่ผันผวน โดยน้ำมัน WTI (NYMEX) อยู่ที่ 45.89$/bbl (-0.4%), Brent อยู่ที่ 46.59$/bbl (-1.8%) ขณะที่หุ้นยุโรปปิดบวกเฉลี่ยราว 1.5% จากความคาดหวังมากขึ้นว่า ECB จะรีบออกมาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่ม (Public QE) เร็วเป็นการประชุมสัปดาห์หน้า (22 ม.ค.)  มอง SET ขณะนี้ ถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ โดยหากแกว่งขึ้นยืนเหนือระดับ 1540 ได้ มีโอกาสขึ้นต่อไปปิดช่องว่างราคา (GAP) ที่เคยเปิดไว้บริเวณ 1555-60 แต่หากทดสอบแถว 1535-40 แล้วไม่ผ่าน อาจก่อตัวในรูปแบบของ “Double Top” ทางปัจจัยเทคนิค ซึ่งมีโอกาสที่ SET จะไหลลงมาต่ำกว่าระดับ 1500 จุดได้ จากความไม่แน่นอนของราคาน้ำมัน, ปัญหารัสเซีย และการเลือกตั้งกรีซในวันที่ 25 ม.ค.นี้ โดยสรุป SET วันนี้ จะแกว่งผันผวน ในกรอบแนวรับ 1515-20 และแนวต้าน 1535-40 อนึ่ง AJD, AJD-W1 ถูกมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 : Cash Balance มีผล 14-13 ก.พ. 

 

กลยุทธ์การลงทุน: เทรดสั้น เน้นขนส่ง, ลงทุน Q1 หาจังหวะอ่อนตัวสะสมเพิ่ม

ปัจจัยที่จะมีน้ำหนักมากขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ คือ (1) การประกาศผลประกอบการของหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งโดยรวมของ 7 ธนาคารที่อยู่ภายใต้การวิเคราะห์ของเราคาดมีกำไรสุทธิ 4Q57F รวม ทรงตัว YoY แต่ลดลง 13% QoQ จากแรงกดดันด้านปัจจัยฤดูกาลของการตั้งสำรองฯ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยทุกธนาคารจะมีกำไรทรงหรือลดลง QoQ ขณะที่กำไรดีขึ้น YoY คือ BBL (+7% YoY), KBANK  (+10% YoY), TMB (+29% YoY) ส่วนกำไรทั้งปี 57F ที่เพิ่มขึ้น YoY มีเพียง KBANK (+13%), SCB (+5%) TMB (+55%) และหุ้นธนาคารทั้ง 3 ตัวหลังสุดยังเป็นหุ้นที่เราชอบสุดในกลุ่มนี้ (2) สถานการณ์ในตปท. อาทิ การประชุม ECB 22 ม.ค., ปัญหาศก.รัสเซีย, การเลือกตั้งกรีซ 25 ม.ค. และความผันผวนของราคาน้ำมัน หุ้นเทรดดิ้งสั้น เน้นกลุ่มขนส่งได้ประโยชน์จากน้ำมันลง-ท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง AOT, AAV, BA (นักท่องเที่ยวตปท.พ.ย.บวก 2 เดือนติด และแนวโน้ม ธ.ค.ยังเป็นบวกต่อเนื่อง), RCL และ PSL, TTA (BDI ฟื้นแรงเป็นวันที่ 2 ในรอบ 2 เดือน) หุ้นลงทุน Q1 แนะนำหาจังหวะสะสม AMATA, BBL, BGH, CPN, DTAC, HMPRO, INTUCH, KBANK, KTB, SPALI หุ้นเด่น (Top picks) สำหรับเดือน ม.ค. (ตาม TISCO Smart Tactics) คือ BEAUTY, BTS, GFPT, MALEE, SCB, TMB นอกจากนี้ แนะทยอยเก็บหุ้นปันผลด้วยช่วงอ่อนตัว MODERN, ASP, INTUCH, BJCHI, BTS, AIT, KKP 

 

หุ้นเด่นรายวัน: CPN , TTA

CPN – เป็นจังหวะที่ดีมากในการเข้าลงทุนหุ้น CPN หลังราคาปรับตัวขึ้นน้อยทั้งๆ ที่มีการเติบโตที่ดีในช่วงปีที่ผ่านมา (Laggard SET 6%, BIGC 21%) เรามอง CPN ได้ประโยชน์จากแนวโน้มการบริโภคฟื้นตัวในช่วงก่อนเลือกตั้งต้นปี 2016 ราคาซื้อขายที่ PER 21.6x ปี 2015 vs ค่าเฉลี่ย PER 5 ปี ที่ 23.5x “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 55 บ. (SOTP)
 

TTA – BDI ฟื้นตัวแรงในรอบ 2 เดือน โดยขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกัน หนุนบรรยากาศการลงทุนเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มเดินเรือเทกอง บริษัทจะ XR-W 5 ก.พ. 15 : 6 @ ประมาณ 14.95 บ. : TTA-W5 2 หน่วยฟรี นอกจากนี้ ยังได้สิทธิจองซื้อหุ้น IPO บ.ย่อย PMTA จำนวน 35.42 ล้านหุ้นอีกด้วย ลุ้นการประมูลเข้าซื้อหุ้น BCP จาก PTT ในช่วงปลายเดือนนี้ (TTA เป็น 1 ใน 4 บริษัทที่ร่วมประมูล) มูลค่าเหมาะสม 25.9 บ. (CONSENSUS) 

 

12-21 ม.ค.

THกลุ่มธนาคารพาณิชย์ทยอยประกาศผลประกอบการปี 57

 

14 ม.ค.

EU, USตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรปใน พ.ย., ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ใน ธ.ค.

 

15 ม.ค.

JPตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของญี่ปุ่นในเดือน ธ.ค., ตัวเลขคำสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นในเดือน พ.ย.

USผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯ, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจ (Philadelphia Fed.) ใน ม.ค.