สรุปภาวะตลาดวันก่อน: SET -5.15 จุด กังวลการฟื้นตัวศก.โลก + ขาดปัจจัยใหม่
SET ผันผวนทั้งแดนบวกและลบในกรอบแคบๆ 1581-92 ขาดปัจจบันบวกใหม่ ๆ ประกอบกับนลท.กังวลการฟื้นตัวศก.โลก โดยหุ้นกลุ่มแบงก์นำตลาดปรับลง หลังเราปรับลดคำแนะนำของหุ้นธนาคารขนาดใหญ่หลายตัวลงเป็น “ถือ” ด้านเงินทุนต่างชาติพลิกเป็นขายสุทธิ 749 ลบ. ยุติการซื้อสุทธิ 7 วันติดต่อกัน
ทิศทางตลาดวันนี้: อ่อนลง ผิดหวัง US GDP, ผวาระเบิด BTS-พารากอน
หุ้นโลกเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (30 ม.ค.) ร่วง ผิดหวัง GDP Q4 สหรัฐฯ เติบโตเพียง +2.6% น้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ +3.0% ขณะที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ปธ. FED สาขาเซ็นต์หลุยส์ เตือนภาวะฟองสบู่ในราคาสินทรัพย์หากคงอัตราดบ.ระดับต่ำมากนานเกินไป เนื่องจากอัตราว่างงานลดลง ด้านธ.กลางรัสเซียหั่นดบ.นโยบายลง 2% เป็น 15% หลังจากที่เพิ่งปรับขึ้น 6.5% ในเดือน ธ.ค. หลังเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัว ปัจจัยตปท.ยังมีความผันผวนสูง จากความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการเงินในแต่ละปท. เพื่อรับมือผลกระทบจากการชะลอตัวทางศก.-ความเสี่ยงเงินฝืด-การออก Public QE ของ ECB มอง SET ผันผวน ให้น้ำหนักทางอ่อนลง จากปัจจัยกดดันจากตปท. และกระเงินทุนต่างชาติไหลเข้าชะลอตัว นอกจากนี้ เหตุระเบิดที่ทางเชื่อม BTS-สยาม พารากอนเมื่อคืนวันอาทิตย์นี้ (1 ก.พ.) แม้ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ตอกย้ำว่า คมช.และรัฐบาลยังจำเป็นต้องใช้กฎอัยการศึกต่อไป ดับฝันการยกเลิกกฎอัยการศึกในเร็ววันนี้ รวมทั้งยังอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นและการบริโภคของไทยด้วย อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมีวันนี้ น่าจะช่วยประคับประคองไม่ให้ตลาดแกว่งลงมาก หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกดีดกลับแรง (น้ำมัน WTI +8.3% มาที่ 48.24$/bbl สูงสุดรอบ 2 สัปดาห์, น้ำมัน Brent +7.9% มาที่ 52.99$/bbl สูงสุดรอบ 1 เดือน) แนวรับ 1570+/- แนวต้าน 1590-1600 AEC, AEC-W2, BKD, BKD,-W1, EMC, EMC-W4, FVC, ITD, MLINK, PLE, PLE-W2, RWI, TFI ติด Cash Balance 2 ก.พ. – 13 มี.ค. ส่วน ABC, ABC-W1 ขยายเวลาติด Cash Balance ต่ออีก 3 สัปดาห์ จนถึง 20 ก.พ.
กลยุทธ์การลงทุน: หาจังหวะสะสมหุ้นเพิ่ม / ถือทนแกว่ง (Let Profits Run)
แม้เรามอง SET มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า จากแรงผลักดันด้านสภาพคล่องโลกเป็นสำคัญ แต่การขึ้นรอบนี้จะไม่ราบรื่น โดยเราเชื่อว่าจะมีความผันผวนพอสมควร จาก 3 ปัจจัยหลัก คือ (1) ความไม่แน่นอนของอนาคตกรีซ หลังต้องมีการเจรจาผ่อนปรนเงื่อนไขชำระหนี้ (2) แรงขายทริกเกอร์ฟันด์ จากการรวบรวมของเราพบว่า ระดับ SET ที่เคลื่อนไหวตั้งแต่ 1600-1700 จุดคาดว่าจะมีทริกเกอร์ฟันด์สูงถึง 24 กอง มูลค่ารวมมากกว่า 1.3 หมื่นลบ. จ่อทยอยขายทำกำไร (3) การปรับประมาณการ (ลง) – เรามองประมาณการกำไรปี 2015F โดยรวมของบริษัทจดทะเบียนในตลาดมีแนวโน้มปรับลงอีก จากการบริโภคภายในปท.ที่ฟื้นตัวช้า และการส่งออกที่มีความเสี่ยงมากขึ้นจากเศรษฐกิจชะลอตัวในต่างประเทศ นอกจากนี้หุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมีและหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ น่าจะถูกหั่นกำไรลงอีก ผลสืบเนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 $/บาร์เรล เราแนะนำนลท.หาจังหวะสะสมช่วงราคาหุ้นย่อตัว และถือทนแกว่งไปขายแถว SET ที่สูงกว่าระดับ 1650 จุดเป็นต้นไป โดยเราเน้นหุ้นที่คาดว่าจะมีงบ-ปันผลดี และมีโอกาสปรับประมาณการขึ้น หุ้นเด่น (Top picks) สำหรับเดือน ก.พ. คือ AP, BGH, CK, INTUCH, KGI, SIRI, SST, STPI, TCAP
หุ้นเด่นรายวันSST
SST – คาดผลการดำเนินงานปี 15F จะพลิกเป็นกำไรและเติบโตเฉลี่ยในปี 15-17F (CAGR 3 ปี) ที่ก้าวกระโดดถึง 134% จาก 1) เริ่มรับรู้รายได้จาก Greyhound ตั้งแต่ 3Q14 2) กำไรจากธุรกิจอาหารที่เติบโต จาก Dunkin Donut, Au Bon Pain, Baskin Robbins 3) ไม่มีธุรกิจน้ำมันพืชที่ขาดทุนฉุดรั้ง มูลค่าเหมาะสม 38 บ. (DCF)
ปัจจัยติดตาม
2 ก.พ.
TH, JPตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยใน ม.ค., PMI ภาคอุตฯ และยอดขายรถยนต์ของญี่ปุ่นใน ม.ค.
CH, EUตัวเลข PMI ภาคอุตฯ จีนและสหภาพยุโรปใน ม.ค.
USรายได้-การใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯ ใน ธ.ค., การใช้จ่ายด้านก่อสร้างใน ธ.ค., ISM อุตฯ ใน ม.ค.
3 ก.พ.
EU, USตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของสหภาพยุโรปใน ธ.ค., ตัวเลขคำสั่งซื้อภาคโรงงานสหรัฐฯ ใน ธ.ค.
ข่าวเด่น