สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,273.70-1,265.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,600 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงก่อนหน้าที่ระดับ 19,600 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG15 อยู่ที่ 19,640 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,650 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.02 น.ของวันที่ 05/02/15)

แนวโน้มวันที่ 06 กุมภาพันธ์ 2558
ความเสี่ยงที่กรีซอาจจะออกจากยูโรโซนเพิ่มสูงขึ้น เมื่อธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยกเลิกการยอมรับตราสารหนี้กรีซในฐานะหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืมอย่างฉับพลัน และส่งผลให้ภาระหน้าที่ในการจัดหาเงินทุนให้แก่ธนาคารพาณิชย์กรีซตกเป็นของธนาคารกลางกรีซแทน ความวิตกกังวลที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากธนาคารกลางกรีซจะต้องจัดหาสภาพคล่องฉุกเฉินเพิ่มเติมหลายหมื่นล้านยูโรในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยการดำเนินการของอีซีบีเป็นการกดดันให้กรีซมีการทำข้อตกลงปฏิรูปฉบับใหม่

ขณะที่ปัญหาทางเศรษฐกิจของกรีซส่งให้กรีซอาจเกิดการผิดนัดชำระหนี้ จนต้องออกจากการเป็นสมาชิกของยูโรโซน ประเด็นสำคัญดังกล่าวการประชุมรัฐมนตรีคลังและนักการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา 19 ประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรป (จี-20) จะถูกนำมาหารือกันอีกครั้งที่อิสตันบูลในสัปดาห์หน้า
แต่อย่างไรก็ตามราคาทองคำปรับตัวบวกได้ไม่มากนักเพราะนักลงทุนในตลาดทองคำเพิ่มความระมัดระวังในการเพิ่มการถือครองทองคำ เนื่องจากกำลังจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมกราคมในวันศุกร์นี้ หลังจากเพิ่มขึ้น 252,000 ตำแหน่งใน เดือนธันวาคม ซึ่งถือว่าเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกันที่การจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 ราย ขณะที่อัตราการว่างงานของเดือนธันวาคม ลดลง 0.2% สู่ระดับ 5.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง ขณะที่การคาดว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร จะเพิ่มขึ้น 234,000-236,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคมและอัตราการว่างงานอาจจะทรงตัวที่ 5.6% เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่า หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านแรกได้ นักลงทุนอาจรอการอ่อนตัวลงของราคาค่อนเข้าซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น และแนะนำให้ติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเพื่อประกอบกการตัดสินใจลงทุน

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีแนะนำให้นักลงทุนจับตาบริเวณ 1,252-1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาสามารถยืนได้จะเกิดแรงซื้อที่ดันราคาให้ดีดตัวขึ้นไป อย่างไรก็ตาม หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,275 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากเมื่อราคามีการปรับขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมาเช่นกัน ทั้งนี้ ระยะสั้นราคาทองคำยังมีแนวโน้มสร้างฐานราคา ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านโซน 1,285 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,252-1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนสามารถซื้อเก็งกำไร โดยตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณ 1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์  
                 ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,252 (19,300บาท)       1,245 (19,190บาท)          1,230 (18,960บาท)  
แนวต้าน      1,275 (19,700บาท)       1,285 (19,810บาท)          1,300 (20,040บาท)     

           GOLD FUTURES (GFG15)
แนวรับ        1,252 (19,460บาท)       1,245 (19,350บาท)          1,230 (19,120บาท)  
แนวต้าน      1,275 (19,820บาท)       1,285 (19,970บาท)          1,300 (20,210บาท)