ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2558) โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 18,116.84 จุด ลดลง 23.60 จุด หรือ -0.13% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,960.97 จุด เพิ่มขึ้น 5.00 จุด หรือ +0.10% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,109.66 จุด ลดลง 0.64 จุด หรือ -0.03%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กดิ่งลง ภายหลังจากมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจาก NAR รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนม.ค.ลดลง 4.9% สู่ระดับ 4.82 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ 4.98 ล้านยูนิต
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.7% ปิดที่ 385.08 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,862.30 จุด เพิ่มขึ้น 31.40 จุด หรือ +0.65% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,130.92 จุด เพิ่มขึ้น 80.28 จุด หรือ +0.73% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,912.16 จุด ลดลง 3.04 จุด หรือ -0.04%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่ารมว.คลังกลุ่มยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ได้บรรลุข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศ ในการขยายโครงการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินต่อกรีซออกไปอีก 4 เดือน
นอกจากนี้ ยังได้รับแรงหนุนหลังจากสถาบัน Ifo ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีขยับขึ้นแตะระดับ 106.8 ในเดือนก.พ. จาก 106.7 ในเดือนม.ค. โดยการปรับตัวขึ้นดังกล่าวนับเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นของธนาคารกลางยุโรปช่วยบดบังความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้กรีซลงได้ส่วนหนึ่ง
ข่าวเด่น