(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.21 น.ของวันที่ 02/03/15)
แนวโน้มวันที่ 3 มีนาคม 2558
ธนาคารกลางจีน (PBOC) ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากลง 0.25% เป็นครั้งที่ 2 ภายในเวลากว่า 3 เดือน ขณะที่รัฐบาลหวังว่าจะทำให้ต้นทุนการกู้เงินของภาคเอกชนลดลงอีก ซึ่งหนุนการคาดการณ์ที่ว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการทางการเงินออกมาอีกเพื่อจัดการกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางจีนได้ปฏิบัติการอัดฉีดสภาพคล่องระยะสั้น (SLO) โดยใช้เม็ดเงิน 2.870 หมื่นล้านดอลลาร์ เข้าสู่ตลาดเงินระหว่างธนาคารในช่วงกลางเดือนมกราคมเพื่อแรงกดดันด้านเงินฝืด แนวโน้มที่ทางการจีนผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้นได้เพิ่มมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจจีนและส่งผลเชิงบวกกับตลาดทองคำเนื่องจากประเทศจีนซื้อทองคำเป็นอันดับต้นๆของโลก อย่างไรก็ตาม สกุลเงินดอลลาร์ที่สามารถทรงตัวในระดับสูงและดัชนีดอลลาร์สามารถบวกยาวนานติดต่อกัน 8 เดือน โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐและความเห็นจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้เมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นนักลงทุนยังคงเลือกที่จะลดการถือครองทองคำลง ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของคณะกรรมการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) ของสหรัฐที่ว่า ผู้จัดการกองทุนและกองทุนเฮดจ์ฟันด์ได้ปรับลดสถานะซื้อในสัญญาล่วงหน้าและออปชั่นของทองคำลงในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยลดสถานะซื้อสุทธิในทองคำลงสู่ระดับ 103,528 สัญญา ซึ่งถือเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปี 2014 และสถานะซื้อสุทธิในทองคำลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน เบื้องต้นวายแอลจีมีมุมมองต่อราคาทองคำว่า ราคาทองคำพยายามขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,225-1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านได้ ก็จะเห็นการย่อตัวของราคากลับลงมาบริเวณแนวรับ 1,205-1,192 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อสะสมกำลังอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,225-1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมา นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อเพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัวขึ้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,192 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,205 (18,420บาท) 1,192 (18,220บาท) 1,180 (18,030บาท)
แนวต้าน 1,225 (18,750บาท) 1,233 (18,850บาท) 1,237 (18,910บาท)
GOLD FUTURES (GFG15)
แนวรับ 1,205 (18,630บาท) 1,192 (18,430บาท) 1,180 (18,250บาท)
แนวต้าน 1,225 (18,940บาท) 1,233 (19,060บาท) 1,237 (19,120บาท)
ข่าวเด่น