ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
มติ กบง. สั่งลดราคาน้ำมัน มีผลพรุ่งนี้ เบนซิน ลด 2 บาท/ลิตร, แก๊สโซฮออล์ ลด 1 บาท/ลิตร ,ดีเซล ลด 50 สต./ลิตร


คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) อาศัยกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบริหารจัดการราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสมไม่กระทบต่อภาระค่าครองชีพและเศรษฐกิจในภาพรวม โดยประกาศคงราคาขายปลีกก๊าซ LPG เดือนมีนาคม 2558 ไว้ที่ 24.16 บาท/กก. พร้อมปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิด คาดส่งผลราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดลดลง ยกเว้น E85 ราคาคงเดิม


วันนี้ (9 มีนาคม 2558) ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งมี ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน ได้พิจารณาโครงสร้างราคาก๊าซ LPG เดือนมีนาคม 2558 โดยสถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลก (CP) ได้ปรับตัวอยู่ที่ 484 เหรียญสหรัฐ/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 22 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่งผลให้ราคา ณ โรงกลั่นซึ่งเป็นราคาซื้อตั้งต้นของก๊าซ LPG โดยใช้ต้นทุนเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักจากแหล่งผลิตและแหล่งจัดหา (โรงแยกก๊าซธรรมชาติ โรงกลั่นน้ำมัน และการนำเข้า) มีการปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 0.19 บาท/กก. จากประมาณ 16.40 บาท/กก. เป็น 16.59 บาท/กก. ส่งผลให้ราคาขายปลีกก๊าซ LPG ปรับเพิ่มขึ้น 0.21 บาท/กก. จาก 24.16 บาท/กก. เป็น 24.37 บาท/กก.

ทั้งนี้ เพื่อให้การปรับโครงสร้างราคา LPG ตามนโยบายที่มุ่งให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่กระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชนมากนักในช่วงเวลานี้ ที่ประชุมฯ จึงเห็นควรใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการโดยให้คงราคาขายปลีก LPG เดือนมีนาคม 2558 ไว้เท่าเดิม คือ 24.16 บาท/กก. โดยปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของก๊าซ LPG ลง 0.19 บาท/กก. จากประมาณ 0.54 บาท/กก. เหลือ 0.35 บาท/กก. โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2558 เป็นต้นไป ทั้งนี้ จะทำให้กองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของก๊าซ LPG มีรายรับลดลงประมาณ 73 ล้านบาท/เดือน

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ เห็นชอบปรับอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันชนิดต่างๆ ให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสม  ดังนี้

-        น้ำมันเบนซิน ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ 2 บาท/ลิตร

-        น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 และ E20 ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ 1 บาท/ลิตร
-        E85 ปรับลดอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ 1 บาท/ลิตร

-        น้ำมันดีเซล ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ 0.20 บาท/ลิตร

ทั้งนี้ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2558 เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ จะประสานความร่วมมือไปยังผู้ค้าน้ำมันให้ปรับลดราคาขายปลีกของน้ำมันเบนซินลง 2.00 บาท/ลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 และ E20 ลง 1 บาท/ลิตร และน้ำมันดีเซลลง 0.50 บาท/ลิตร

สำหรับน้ำมันดีเซล ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาเพื่อขยับอัตราภาษีสรรพสามิตให้ใกล้เคียงกับน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ที่เก็บอยู่ที่ประมาณ 5 บาท/ลิตร โดยกระทรวงการคลังจะปรับสรรพสามิตดีเซลเพิ่มขึ้นอีก
1 บาท/ลิตร และภาษีเทศบาล 0.10 บาท/ลิตร ดังนั้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาขายปลีก กบง. จึงมีมติปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซลลง 1.10 บาท/ลิตร โดยจะออกประกาศ กบง. เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในวันที่มีการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตของน้ำมันดีเซล

ผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ครั้งนี้ ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีสภาพคล่องลดลงประมาณ 3,155 ล้านบาท/เดือน จากมีรายรับ 7,821 ล้านบาท/เดือน เป็นมีรายรับ 4,666 ล้านบาท/เดือน

นอกจากนี้  ได้มีการเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก กับราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ  ตั้งแต่ 22 พฤษภาคม 2557 ถึง 9 มีนาคม 2558 พบว่า ราคาน้ำมันดิบ มีการปรับลดลงประมาณ 11.21 บาท/ลิตร ส่วนราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ แก๊สโซฮอล 95 ลดลง 10.83 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล 91 ลดลง 9.70 บาท/ลิตร ดีเซล ลดลง 2.60 บาท/ลิตร และ LPG เพิ่มขึ้น 1.53 บาท/กก.ทั้งนี้ สาเหตุที่ราคาดีเซลไม่ลดลงเท่าราคาน้ำมันตลาดโลก เนื่องจากที่ผ่านมาราคาน้ำมันตลาดโลกอยู่ในระดับสูง มีการใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ และภาษีสรรพสามิตเข้ามาช่วยตรึงราคาขายปลีกเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ดังนั้น ในช่วงที่ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับลดลง จึงได้มีการเก็บภาษีสรรพสามิตและกองทุนน้ำมันฯ เพิ่มขึ้นเพื่อให้มีการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันในภาคขนส่งให้ใกล้เคียงกันและเก็บเงินคืนกองทุนน้ำมันฯ ส่วน LPG เพื่อให้ราคาขายปลีกสะท้อนต้นทุนมากยิ่งขึ้น

นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ปัจจุบันมีการหลอกลวงประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ชักชวนให้ลงทุนในหุ้น ทองคำ น้ำมันดิบ ด้วยอัตราผลตอบแทนที่สูงเกินจริง มีการรับประกันเงินลงทุน อ้างอิงสกุลเงินต่างประเทศด้วยอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ โดยแอบอ้างว่าเป็นเครือข่ายของบริษัทต่างประเทศ ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจาก ก.ล.ต. เป็นต้น หากประชาชนท่านใดได้รับการติดต่อชักชวนโดยบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยเช่นนี้ ขออย่าได้หลงเชื่อ เข้าไปเช็คข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. www.sec.or.th  ภายใต้หัวข้อ License Check  และแจ้งเบาะแสกับ ก.ล.ต. ที่โทร. 1207 เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป

 

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 มี.ค. 2558 เวลา : 16:15:34

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:16 pm