ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 มีนาคม 2558)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,662.94 จุด ร่วงลง 332.78 จุด หรือ -1.85% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,044.16 จุด ลดลง 35.27 จุด หรือ -1.70% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,859.79 จุด ลดลง 82.65 จุด หรือ -1.67%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลง หลังจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มรายได้ของบริษัทข้ามชาติ
ขณะที่สกุลเงินยูโรดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ จากการที่ ECB ดำเนินมาตรการผ่อนคลายสภาพคล่อง (QE) ด้วยการซื้อพันธบัตร 6 หมื่นล่านยูโรในเดือนนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการเงินของกรีซ โดยกรีซจะเสนอแผนปฏิรูปเศรษฐกิจต่อสหภาพยุโรป (EU), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) พิจารณาในวันพุธ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าทางกลุ่มเจ้าหนี้ยังไม่ยอมรับแผนการปฏิรูปดังกล่าว
ขณะตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 มีนาคม 2558) ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.9% ปิดที่ 389.66 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,881.95 จุด ลดลง 55.25 จุด หรือ -1.12% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,500.38 จุด ลดลง 81.73 จุด หรือ -0.71% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,702.84 จุด ลดลง 173.63 จุด หรือ -2.52%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลง อันเนื่องมาจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกมีอยู่มากเกินไป นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็ว หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 295,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ข่าวเด่น