ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
YLG ชี้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในระยะสั้น เตือนระมัดระวังแรงขายทำกำไร


 สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 12 มีนาคม 2558ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,150.60-1,166.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,150 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ15 อยู่ที่ 18,210 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,230 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.41 น.ของวันที่ 12/03/15)

แนวโน้มวันที่ 13 มีนาคม 2558
ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เริ่มโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2015 เพื่อพยายามกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเพิ่มระดับอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ การดำเนินโครงการผ่านการซื้อพันธบัตรวงเงิน 1.1 ล้านล้านยูโร หรือ มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของอีซีบี ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของเกือบทุกประเทศในยูโรโซนร่วงลง เห็นได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมนีอายุ 2 ปีร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ -0.241% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรฝรั่งเศสอายุ 2 ปีร่วงลงสู่ระดับ - 0.149% ซึ่งเยอรมนีและฝรั่งเศสมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับต้นๆในยูโซนยังได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน ขณะที่การอ่อนค่าลงของสกุลเงินยูโรได้เป็นแรงหนุนให้ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินปรับขึ้นและสามารถทรงตัวรักษาระดับเข้าใกล้ 100.00 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2003 ประเด็นดังกล่าวได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำออกมา

อย่างไรก็ตามอนาคตของเศรษฐกิจจีนเริ่มส่งสัญญาณความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ หลังตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซาต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารกลางจีน (PBOC) จับตาดูตัวเลขเงินเฟ้อสำหรับเดือนมีนาคมและเมษายนเพื่อดูว่าแรงกดดันด้านเงินฝืดทวีความรุนแรงมากขึ้นในจีนหรือไม่ ทั้งนี้หากแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ทางการจีนอาจพิจารณาการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือ การปรับลดอัตราสำรองเงินสดสำรองขั้นต่ำของธนาคารพาณิชย์ (Required Reserve Requirements) เมื่อดัชนีราคาผู้บริโภคปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวขึ้นและสร้างมุมมองเชิงบวกเพิ่มขึ้นกับทิศทางราคาทองคำ ประเมินว่าราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้ในระยะสั้น โดยหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านโซน 1,173-1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยังไม่สามารถยืนได้แนะนำขายทองคำออกมาเช่นเดิม

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในระยะสั้นและหากทดสอบแนวต้านโซน 1,173 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเมื่อมีการปรับตัวขึ้นก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาเช่นกัน โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ  ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,148 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,140 ดอลลาร์ต่อออนซ์  

                 ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,148 (17,800บาท)       1,140 (17,670บาท)          1,130 (17,520บาท)
แนวต้าน      1,173 (18,190บาท)       1,180 (18,300บาท)          1,190 (18,450บาท)     

           GOLD FUTURES (GFJ15)
แนวรับ        1,148 (17,970บาท)       1,140 (17,840บาท)          1,130 (17,690บาท)
แนวต้าน      1,173 (18,360บาท)       1,180 (18,470บาท)          1,190 (18,620บาท)    


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 12 มี.ค. 2558 เวลา : 17:38:16

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:00 am