หลังการแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ เฟด ที่ส่งสัญญาณยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดัชนีปรับเพิ่มขึ้น โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 มีนาคม 2558) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,076.19 จุด พุ่งขึ้น 227.11 จุด หรือ +1.27% , ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,982.83 จุด เพิ่มขึ้น 45.40 จุด หรือ +0.92% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,099.50 จุด เพิ่มขึ้น 25.22 จุด หรือ +1.22%
ขณะตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 398.65 จุด, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,945.20 จุด พุ่งขึ้น 107.59 จุด หรือ +1.57%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,033.42 จุด เพิ่มขึ้น 4.49 จุด หรือ +0.09% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 11,922.77 จุด ลดลง 58.08 จุด หรือ -0.48%
โดยนักลงทุนขานรับถ้อยแถลงของเฟดที่ยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย แม้เฟดจะยกเลิกการใช้คำว่า "อดทน" ในการพิจารณาเรื่องกำหนดเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในแถลงการณ์ล่าสุดก็ตาม
นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยปรับลดเหลือเพียงการเติบโตในปีนี้ที่ 2.3%-2.7% จากเดิมที่คาดการณ์เมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่าจะเติบโตที่ 2.6%-3.0% และเฟดยังได้ปรับลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2016 และ 2017 เช่นกัน รวมถึงปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ สู่ระดับ 0.6%-0.8% ส่วนในปี 2016 คาดว่าจะอยู่ในช่วง 1.7%-1.9% ขณะที่ปี 2017 คาดว่าจะอยู่ใกล้ระดับ 2%
สำหรับตลาดหุ้นยุโรป ปัจจัยบวกหลักๆ มาจากดัชนี FTSE 100 ของตลาดหุ้นอังกฤษที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งกว่า 100 จุด หลังนายจอร์จ ออสบอร์น รมว.คลังอังกฤษ ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในปีนี้และปีหน้า ประกอบกับธนาคารกลางสวีเดนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและขยายมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ
ข่าวเด่น