สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 19 มีนาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,163.60-1,177.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 17,950 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ15 อยู่ที่ 18,260 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 190 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,070 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.54 น.ของวันที่ 19/03/15)

แนวโน้มวันที่ 20 มีนาคม 2558
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณแบบผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่าไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนเมษายน โดยจะพิจารณาการปรับอัตราขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายน ขณะที่เฟดก็มีความยืดหยุ่นที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยหลังจากนั้น โดยย้ำว่าการตัดสินใจใดๆจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจและตอกย้ำถึงผลเสียของดอลลาร์ต่อการส่งออกของสหรัฐ ทั้งนี้ หลังจากเฟดออกแถลงการณ์ปัจจัยนี้มีส่วนช่วยหนุนราคาทองคำให้พุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ขณะที่ผลสำรวจของรอยเตอร์พบว่า ธนาคารชั้นนำส่วนใหญ่ในย่านวอลล์สตรีทคาดว่า เฟดจะรอจนถึงเดือนกันยายน เป็นอย่างช้าก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก หลังจากเฟดได้ปรับลดการประเมินภาวะเศรษฐกิจและคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลงได้เป็นอีกหนึ่งแรงบวกต่อทิศทางราคาทองคำ

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจับตาธนาคารกลางจีนกำลังเตรียมออกข้อกำหนดการนำเข้าและส่งออกทองคำและผลิตภัณฑ์ทองคำ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์ตามภาวะเศรษฐกิจมหภาคระดับประเทศ โดยย้ำว่าบริษัทต่างๆที่นำเข้าและส่งออกทองคำจะต้องรับผิดชอบในการรักษาสมดุลของตลาดในประเทศและต้องมีการลงทะเบียนการซื้อขายกับตลาดทองคำที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีจีน ซึ่งหากกฎระเบียบสามารถบิดเบือนกลไกลตลาดได้อาจส่งผลให้แรงซื้อขายทองคำจากจีนชะลอตัวลง ทั้งนี้ ประเมินว่าหากราคาทดสอบแนวต้าน 1,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้ราคาจะเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,155 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสดีดตัวขึ้นอีกครั้ง ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนเข้าเก็งกำไรระยะสั้น

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,155 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณโซนแนวรับ 1,145 หรือ 1,132 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป

                 ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,155 (17,870บาท)       1,145 (17,720บาท)          1,132 (17,520บาท)
แนวต้าน      1,175 (18,190บาท)       1,185 (18,340บาท)          1,195 (18,500บาท)     

           GOLD FUTURES (GFJ15)
แนวรับ        1,155 (18,100บาท)       1,145 (17,940บาท)          1,132 (17,7300บาท)
แนวต้าน      1,175 (18,400บาท)       1,185 (18,560บาท)          1,195 (18,720บาท)