ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 เมษายน 2558) โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,875.42 จุด ลดลง 5.43 จุด หรือ -0.03% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,910.23 จุด ลดลง 7.09 จุด หรือ -0.14% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,076.33 จุด ลดลง 4.29 จุด, -0.21% โดยนักลงทุนในตลาดกังวลเรื่องการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการบริษัทส่งออกในไตรมาสแรกปีนี้ ทำให้นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะเผยแพร่รายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ในวันพุธนี้ ซึ่งตลาดคาดเฟดอาจจะส่งสัญญาณเรื่องระยะเวลาการปรับขึ้นดอกเบี้ย
ด้านตลาดหุ้นยุโรปสามารถปิดได้ในแดนบวก โดยดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.6% ปิดที่ 404.34 จุด , ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,151.19 จุด เพิ่มขึ้น 77.05 จุด หรือ +1.52% , ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 12,123.52 จุด พุ่งขึ้น 156.13 จุด หรือ +1.30% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,961.77 จุด เพิ่มขึ้น 128.31 จุด หรือ +1.88% เนื่องจากขานรับข่าวตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซนในเดือนมี.ค.ที่เพิ่มขึ้นแตะ 54.2 จาก 53.7 ในเดือนก.พ. โดยกิจกรรมทางธุรกิจพุ่งขึ้นในอัตราสูงสุดในรอบ 8 เดือน ท่ามกลางการปรับตัวดีขึ้นของภาคบริการเยอรมนีและอิตาลี
รวมถึงตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังจาก นายนารายานา โคเชอร์ลาโคตา ประธานเฟด สาขามินเนอาโพลิส ระบุเศรษฐกิจสหรัฐยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าที่อัตราเงินเฟ้อและการจ้างงานจะกลับสู่ระดับปกติ ทำให้เฟดสามารถชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไปได้จนถึงปีหน้า
ข่าวเด่น