สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 8 เมษายน 2558ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,208.30-1,212.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,650 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ15 อยู่ที่ 18,740 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,740 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.03 น.ของวันที่ 08/04/15)

แนวโน้มวันที่ 9 เมษายน 2558
ตลาดทองคำแทบไม่แสดงปฏิกิริยาต่อเชิงบวกต่อการที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขามินนิอาโปลิส (นายนารายานา โคเชอร์ลาโคทา) กล่าวว่า มีเหตุผลสมควรที่ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ควรจะรอจนกว่าจะถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2016 ก่อนจะเริ่มต้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและหลังจากนั้นเฟดก็ควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนถึงระดับ 2% ก่อนสิ้นปี 2017 โดยราคาทองคำถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์ดีดขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ดอลลาร์มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เพราะการดีดขึ้นนี้ไม่ได้รับแรงกระตุ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ หรือ จากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยการดีดขึ้นของดอลลาร์ในครั้งนี้ช่วยตอกย้ำความเชื่อที่ว่า ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อดอลลาร์ยังคงเป็นทิศทางนโยบายการเงินที่แตกต่างกันระหว่างสหรัฐกับประเทศอื่นๆ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตแต่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีแนวโน้มที่จะดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป โดยบีโอเจมีมติคงนโยบายผ่อนคลายการเงินและการประเมินเศรษฐกิจในการประชุมวันนี้ รวมทั้งมีมติเดินหน้านโยบายหลักในการเพิ่มฐานเงินที่อัตราราว 80 ล้านล้านเยนต่อปีผ่านทางโครงการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีพันธะสัญญาต่อการซื้อสินทรัพย์ 6.0 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนด้วยธนบัตรที่พิมพ์ใหม่จนถึงเดือนกันยายน 2016 หรือนานกว่านั้นหากจำเป็นเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาบรรลุเป้าหมายที่ต่ำกว่า 2% เล็กน้อย ซึ่งประเด็นดังกล่าวยังคงกดดันราคาทองคำ

เบื้องต้นวายแอลจีแนะนำให้รอจังหวะการย่อตัวของราคาเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรในระยะสั้นพร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือให้รอขายทำกำไรตามบริเวณแนวต้านต่างๆเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตในช่วงนี้

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำหากไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,220-1,223 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,200-1,198 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,200-1,198 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์

                 ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,198 (18,440บาท)       1,185 (18,240บาท)          1,172 (18,040บาท)
แนวต้าน      1,223 (18,830บาท)       1,230 (18,940บาท)          1,245 (19,170บาท)     

           GOLD FUTURES (GFJ15)
แนวรับ        1,198 (18,590บาท)       1,185 (18,390บาท)          1,172 (18,190บาท)
แนวต้าน      1,223 (18,980บาท)       1,230 (19,080บาท)          1,245 (19,320บาท)