สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 16 เมษายน 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,200.20-1,209.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,550 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,550 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ15 อยู่ที่ 18,600 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,580 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.26 น.ของวันที่ 16/04/15)

แนวโน้มวันที่ 17 เมษายน 2558
ข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่งในเดือนมีนาคม หรือ นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2012  เนื่องจากการขุดเจาะบ่อน้ำมันและก๊าซปรับตัวลดลง ขณะที่การขยายตัวของกิจกรรมภาคการผลิตในรัฐนิวยอร์ค หดตัวลงเกินคาดในเดือนเมษายนเช่นกัน ทั้งนี้แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐที่ย่ำแย่ในไตรมาสแรกหนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย การคาดการณ์ดังกล่าวกดดันดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินร่วงลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ และได้เป็นเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำอย่างชัดเจน เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงทำให้ทองคำมีราคาถูกลง
สำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ขณะเดียวกันความน่าสนใจของทองคำในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เมื่อสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส หรือ เอสแอนด์พี ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในระยะยาวของกรีซลงมาหนึ่งระดับ CCC+ ซึ่งเป็นระดับที่ถูกมองว่ามีแนวโน้มผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ นักลงทุนในตลาดทองคำจับตาประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกรีซกับกลุ่มเจ้าหนี้ ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องบรรลุข้อตกลงเรื่องโครงร่างของมาตรการในการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน ซึ่งจะจัดขึ้นที่แลตเวียในวันที่ 24 เมษายนนี้ ขณะที่ความเสี่ยงที่กรีซจะออกจากยูโรโซนยังคงมีอยู่หากกรีซไม่สามารถรับผิดชอบหนี้สินและภาระทางการเงินได้ แต่อย่างไรก็ตาม นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรปยังให้การสนับสนุนกรีซต่อไป โดยกล่าวว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจำกัดการจัดสรรเงินทุนฉุกเฉินให้แก่ธนาคารพาณิชย์ของกรีซ เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำมีโอกาสขยับขึ้นสู่แนวต้านในบริเวณ 1,212 หรือ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับนักลงทุนระยะสั้นสามารถเสี่ยงซื้อในบริเวณแนวรับเพื่อหาจังหวะขายทำกำไรเมื่อราคาทองคำดีดตัวขึ้น โดยการเข้าลงทุนต้องไม่ลืมตั้งจุดขายทำกำไรและจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน
        
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,192 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณแนวรับ 1,185-1,180  ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,212 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน

                 ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,192 (18,270บาท)       1,185 (18,160บาท)          1,173 (17,980บาท)
แนวต้าน      1,212 (18,580บาท)       1,220 (18,700บาท)          1,230 (18,850บาท)     

           GOLD FUTURES (GFJ15)
แนวรับ        1,192 (18,410บาท)       1,185 (18,300บาท)          1,173 (18,110บาท)
แนวต้าน      1,212 (18,710บาท)       1,220 (18,840บาท)          1,230 (18,990บาท)