ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์คาดสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น


บมจ. ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ “ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง” คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 53 - 58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 57 - 63  เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

 

 

แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (20 – 24 เม.ย. 58)  

ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น สาเหตุจากการชะลอแผนการลงทุนขุดเจาะและผลิตน้ำมันในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เริ่มส่งสัญญาณให้เห็นถึงปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับลดลง อย่างไรก็ตาม อุปสงค์น้ำมันดิบมีแนวโน้มอ่อนตัวลงในปีนี้ เนื่องจากอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีน มีแนวโน้มชะลอตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากอุปสงค์น้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับ ตัวลดลงในช่วงไตรมาส 2 นี้ หลังโรงกลั่นน้ำมันทั่วโลก เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น ในไตรมาส 2 

 

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:

-การชะลอแผนการลงทุนขุดเจาะและผลิตน้ำมันในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เริ่มส่งสัญญาณให้เห็นถึงปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงอีกครั้งในรอบ 3 เดือน โดย สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขอัตราการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ระดับ 9.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน (รายงาน ณ วันที่ 10 เม.ย.  58) ประกอบกับปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมทั้งได้คาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากหินดินดาน (Shale Oil) ในเดือน พ.ค. 58 มีแนวโน้มลดลง 45,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับเดือน เม.ย. 58 อยู่ที่ระดับ 4.98 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งนับเป็นการปรับลดลงครั้งแรกในรอบ 4 ปี 

 

-จับตาว่ารัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ การปรับลดอัตราเงินสดสำรอง ตลอดจนการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมหรือไม่ หลังอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยล่าสุดสำนักงานสถิติแห่งจีนประกาศตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/58 ขยายตัวที่ระดับร้อยละ 7 ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวที่ตกต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ช่วงวิกฤติการเงินโลกในช่วงปี 52 ถึงแม้ว่ารัฐบาลจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจบางส่วนแล้วก็ตาม โดยก่อนหน้านี้ GDP ไตรมาส 4/57 อยู่ที่ร้อยละ 7.3  ส่งผลให้อุปสงค์มวลรวมของเศรษฐกิจจีนยังคงซบเซา 

 

-ติดตามทิศทางของเศรษฐกิจของยูโรโซนและทิศทางการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ เพื่อแก้ไขภาวะเศรษฐกิจซบเซาและเงินฝืด โดยล่าสุดคณะกรรมการธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมที่ 0.05% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยในสัปดาห์นี้ ต้องติดตามการพิจารณาแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซภายในวันที่ 20 เม.ย. เพื่ออนุมัติเงินช่วยเหลือก้อนสุดท้ายมูลค่า 7,200 ล้านยูโร ที่ชาติยูโรโซนจะให้แก่กรีซภายใต้โครงการเงินกู้มูลค่า 240,000 ล้านยูโร และจะอนุมัติทันความต้องการของกรีซหรือไม่

 

-อุปสงค์น้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาส 2 นี้ หลังโรงกลั่นน้ำมันทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาน้ำมันดิบในช่วงนี้ โดยล่าสุดมีการคาดการณ์ว่าหน่วยการกลั่นน้ำมันดิบ (Crude Distillation Units) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกราว 2 ล้านบาร์เรลจะถูกปิดซ่อมบำรุงในช่วงไตรมาส 2 นี้

 

-ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจและดัชนีภาคการผลิตของจีน และดัชนีภาคการบริการและการผลิตยูโรโซน  

 

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (13 - 17 เม.ย. 58)

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 4.10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 55.74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 5.58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 63.45 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับหนุนหลัง EIA เปิดเผยตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับความกังวลว่าอุปทานน้ำมันจะตึงตัวหลังจากความไม่สงบทางการเมืองใน ประเทศเยเมนที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลาย 

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 เม.ย. 2558 เวลา : 10:48:24

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:24 am