ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 เมษายน 2558) ปิดแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,949.59 จุด ลดลง 85.34 จุด หรือ -0.47% ,ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,014.10 จุด เพิ่มขึ้น 19.50 จุด หรือ +0.39% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,097.29 จุด ลดลง 3.11 จุด หรือ -0.15% โดยนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเอกชน หลังบริษัทดูปองท์เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 1.34 ดอลลาร์ต่อหุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ฉุดให้ราคาหุ้นดูปองท์ร่วงลง 2.95% นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการเจรจาปัญหาหนี้กรีซอย่างใกล้ชิด หลังมีกระแสความวิตกกังวลเกิดขึ้นในตลาดว่ากรีซอาจผิดนัดชำระหนี้
ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดเมื่อคืนนี้ (21 เมษายน 2558) ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.6% ปิดที่ 409.12 จุด , ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,192.64 จุด เพิ่มขึ้น 5.05 จุด หรือ +0.10% ,ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 11,939.58 จุด เพิ่มขึ้น 47.67 จุด หรือ +0.40% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 7,062.93 จุด เพิ่มขึ้น 10.80 จุด หรือ +0.15%
โดยตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งขึ้นของบริษัทเอกชนในยุโรป รวมถึงบริษัท SAP อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาปัญหาหนี้กรีซอย่างใกล้ชิด หลังรมว.คลังเนเธอร์แลนด์ระบุการเจรจาหนี้กรีซมีความคืบหน้า คาดจะมีการบรรลุข้อตกลงกันได้ในช่วงสิ้นเดือนนี้
นอกจากนี้ มีรายงานระบุว่า นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ จะพบปะหารือกับนางอังเกรา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ในวันพฤหัสบดีนี้ นอกรอบการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป (EU) ที่กรุงบรัสเซลส์ ซึ่งการพบปะกันครั้งนี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ของกรีซและตัวแทนของ กลุ่มประเทศเจ้าหนี้กำลังเจรจากันที่กรุงปารีส
ข่าวเด่น