ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 เมษายน 2558) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,038.27 จุด เพิ่มขึ้น 88.68 จุด หรือ +0.49% , ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,035.17 จุด เพิ่มขึ้น 21.07 จุด หรือ + 0.42% ,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,107.96 จุด เพิ่มขึ้น 10.67 จุด หรือ +0.51%
โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ที่ระบุ ยอดขายบ้านมือสองในเดือนมี.ค.ดีดตัวขึ้น 6.1% สู่ระดับ 5.19 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 5.03 ล้านยูนิต นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน โดยบริษัทโคคา-โคลาเปิดเผยกำไรเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.56 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก ขณะที่ยอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้น 1% ส่วนกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 35 เซนต์ในไตรมาสแรก ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เพราะได้ปัจจัยหนุนจากการปรับเพิ่มราคาเครื่องดื่มของบริษัท
ขณะที่บริษัทโบอิ้งเปิดเผยกำไรพุ่งขึ้น 38% ในไตรมาสแรก สู่ระดับ 1.34 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับ 965 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 1.87 ดอลลาร์ เทียบกับ 1.28 ดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยได้ปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของแผนกสายการบินพาณิชย์
ด้าน ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.03% ปิดที่ 408.99 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 11,867.37 จุด ลดลง 72.21 จุด หรือ -0.60% , ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 7,028.24 จุด ลดลง 34.69 จุด หรือ -0.49% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,211.09 จุด เพิ่มขึ้น 18.45 จุด หรือ +0.36%
ตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจรจาปัญหาหนี้กรีซ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากภาวะการซื้อขายได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลของสมาคมนายหน้าอสังหาริม ทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ที่ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนมี.ค.ดีดตัวขึ้น 6.1% สู่ระดับ 5.19 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน
ข่าวเด่น