สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 27 เมษายน 2558ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,179.31-1,183.41 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,350 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,400 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ15 อยู่ที่ 18,350 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 60 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,410 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.21 น.ของวันที่ 27/04/15)

แนวโน้มวันที่ 28 เมษายน 2558
ข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุว่า ตุรกี, เบลารุส, คาซัคสถาน และสหพันธรัฐรัสเซียเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำในเดือนมีนาคม หลังจากราคาทองคำร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ทั้งนี้ รัสเซียซึ่งมีทองคำสำรองมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกได้เข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ทองคำสำรองเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน ประเด็นดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเมื่อราคาอ่อนตัวลงยังคงก็การซื้อทองคำเพิ่ม จากธนคารกลางต่างๆ ซึ่งเป็นปัจจัยจึงที่ชะลอแรงที่เข้ามายังตลาด

ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดทองคำเลือกที่จะลดการถือครองทองคำลง ส่งผลให้ราคาสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือนบริเวณ 1,174 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และปิดตลาดในรายสัปดาห์ในแดนลบเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากลดความเสี่ยงก่อนทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 28-29 เมษายน เพราะหากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเฟดจะเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ ตลาดคาดการณ์ไว้จะเกิดแรงขายทองคำออกมาอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ยังคงเห็นการดีดตัวขึ้นเนื่องจากแรงช้อนซื้อเก็งกำไรระยะสั้น เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะยังไม่ส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากระดับต่ำสุดที่ 0-0.25 % เพราะว่าค่าแรงและอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐยังไม่ได้พุ่งขึ้นในระดับที่มากพอ และการจ้างงานก็ชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ราคาทองคำภายในประเทศได้รับแรงหนุนจากค่าเงินบาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าสุด ที่ 32.72 ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบกว่า 1 เดือน โดยสวนทิศทางสกุลเงินต่างประเทศส่วนใหญ่ที่แข็งค่าขึ้นเนื่องมากจากเป็นผล จากการเข้าซื้อดอลลาร์ของนักลงทุนต่างประเทศรวมถึงกระแสการคดการณ์ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีกในสัปดาห์นี้

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำในระยะสั้นยังเคลื่อนไหวในกรอบ ซึ่งบริเวณแนวต้าน 1,192 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,203 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้อาจแรงขายทำกำไรออกมาซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวัง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไรระยะสั้น โดยเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,170 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,158 ดอลลาร์ต่อออนซ์  

                 ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,170 (18,070บาท)       1,158 (17,890บาท)          1,150 (17,760บาท)
แนวต้าน      1,192 (18,410บาท)       1,203 (18,590บาท)          1,210 (18,700บาท)     

           GOLD FUTURES (GFJ15)
แนวรับ        1,170 (18,150บาท)       1,158 (18,000บาท)          1,150 (17,840บาท)
แนวต้าน      1,192 (18,490บาท)       1,203 (18,670บาท)          1,210 (18,770บาท)