ค่าเงินบาทเปิดตลาดวันนี้ (30 เมษายน) อยู่ที่ระดับ 32.88/95 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงต่อเนื่องจากปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.79/80 บาท/ดอลลาร์ หลังผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน( กนง.) เมื่อวานนี้ (29 เมษายน) มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% มาอยู่ที่ 1.50% ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยติดต่อกัน 2 ครั้ง และสร้างความเซอร์ไพร์สให้กับตลาด
โดยคาดว่าทิศทางค่าเงินบาทวันนี้จะยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่อง จากการส่งสัญญาณของ กนง.ที่สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ขาดโมเมนตั้มในการผลักดันเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น จึงต้องการบอกทิศทางไปยังตลาดโดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ให้ปรับลดดอกเบี้ยลงอีก เพราะลดดอกเบี้ยครั้งที่แล้วยังไม่เพียงพอที่จะกระตุกเศรษฐกิจให้มีแรงเหวี่ยงขึ้น โดยเฉพาะในไตรมาสสองที่เป็นไตรมาสสำคัญจากรายได้การท่องเที่ยวที่ลดลง จึงต้องมีแรงกระตุ้นโดยใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงอีก ประกอบกับต้องใช้นโยบายการคลังซึ่งเป็นนโยบายสำคัญในเวลานี้ในการผลักดันเศรษฐกิจได้เร็วที่สุด ด้วยการเร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณไปยังภูมิภาค
ฉะนั้นคงต้องจับตาทิศทางค่าเงินบาทในระยะเวลานี้ให้ดีว่าจะอ่อนค่าลงไปแตะระดับ 33 บาท/ดอลลาร์หรือไม่ แต่ถ้าดูปัจจัยภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศประกอบแล้ว ก็มีโอกาสเป็นไปได้มากที่ค่าเงินบาทจะไปแตะ 33 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่เป็นปัจจัยที่มีผลสำคัญต่อค่าเงินบาทด้วย รวมถึงการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศทั้งการไหลเข้าและไหลออก ซึ่งวันนี้ตลาดรอฟังธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่จะประกาศมาตรการผ่อนคลายเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศหรือไม่
แต่ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทก็มีผลบวกต่อภาคการส่งออกที่จะทำให้มีรายได้เงินตราต่างประเทศเข้าประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในภาวะการณ์ปัจจุบันนี้ที่ภาวะเศรษฐกิจไทยโดยรวมขาดปัจจัยที่จะเป็นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจ
คาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.80-33.10 บาท/ดอลลาร์
สำหรับค่าเงินเยนวันนี้อยู่ที่ระดับ 118.70 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 118.80 เยน/ดอลลาร์ ส่วนค่าเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1103/1147 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0970 ดอลลาร์/ยูโร
ข่าวเด่น